กลับมาอีกแล้ว ขอเงินแม่8แสนซื้อบิ๊กไบค์ไม่ได้ ทุบรถชาวบ้านรายที่ 9 ตั้งเป้า 10 คัน

วันที่ 26 เมษายน ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.ศรีสะเกษ ว่า นี่คือภาพเหตุการณ์ที่คนร้ายขับขี่รถจักรยานยนต์เข้าไปภายในบริเวณสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาศรีสะเกษ เขต 1 ต.หนองครก อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ และได้ใช้ก้อนหินขนาดใหญ่ทุบที่บริเวณกระจกด้านหลังรถยนต์ ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นอินโนวา สีดำ หมายเลขทะเบียน กข 7126 ศรีสะเกษ ของนางวัทรา แท่นสละ นักวิชาการเงินและบัญชีชำนาญการพิเศษ กลุ่มบริหารงานการเงินและสินทรัพย์ ซึ่งจอดอยู่บริเวณด้านหน้าสำนักงาน โดยขณะที่คนร้ายกำลังขว้างก้อนหินขนาดใหญ่ใส่กระจกรถนั้น ปรากฏว่ารถจักรยานยนต์ของคนร้ายได้ล้มลง ซึ่งคนร้ายได้รีบดึงเอารถจักรยานยนต์ขึ้นมา และขับหลบหนีออกไปอย่างรวดเร็ว

ต่อมา นางวัทรา แท่นสละ ซึ่งเป็นเจ้าของรถได้ออกมาดูรถของตัวเอง และดูภาพจากกล้องวงจรปิดจากสำนักงานแล้ว ได้กล่าวว่า คาดว่าคนร้ายคือนายกิติศักดิ์ วงศ์เลิศ อายุ 20 ปี เป็นบุตรชายของนางรุจิราภรณ์ หลาวทอง นักวิชาการศึกษาชำนาญการพิเศษ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาศรีสะเกษ เขต 1 ซึ่งเคยก่อเหตุทุบกระจกรถยนต์ของเจ้าหน้าที่และผู้มาติดต่อราชการในช่วงเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ 2559 มาแล้ว จำนวน 8 คัน แต่ว่าได้มีการเจรจายอมความกันได้ โดยนางรุจิราภรณ์ แม่ของคนร้าย ได้ยอมชดใช้ค่าเสียหายให้กับเจ้าของรถที่ถูกลูกชายของตนเองทุบรถทุกคัน ในส่วนรถของตนที่ถูกทุบกระจกพังเสียหายในครั้งนี้ ตนยืนยันว่าจะดำเนินคดีตามกฎหมายจนถึงที่สุด เนื่องจากว่ารถยนต์ของตนจอดอยู่ในสถานที่ราชการยังไม่มีความปลอดภัยและยังโดนทุบพังเสียหายแบบนี้

ต่อมา เวลา 15.45 น.วันเดียวกัน ร.ต.อ.สัญญา จันโท พนักงานสอบสวน สภ.เมืองศรีสะเกษ ได้มาตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบว่า กระจกด้านหลังรถโดนก้อนหินขนาดใหญ่ทุบกระจกแตกเป็นช่องขนาดใหญ่ และพบก้อนหินตกอยู่ภายในรถ จึงได้เก็บก้อนหินไว้เป็นหลักฐาน และได้ทำการรวบรวมพยานหลักฐานเอาไว้ โดยได้แจ้งให้ผู้เสียหายทราบว่า หากประสงค์จะแจ้งความดำเนินคดี ให้ไปพบพนักงานสอบสวน สภ.เมืองศรีสะเกษ เพื่อจะได้ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ซึ่งในเบื้องต้นทราบแล้วว่า ผู้ที่ก่อเหตุคาดว่าจะเป็นคนร้ายรายเดิมที่เคยก่อเหตุมาแล้วหลายครั้งภายในบริเวณสำนักงานแห่งนี้ และเมื่อวันที่ 25 เมษายน เวลาประมาณ 15.00 น.คนร้ายรายนี้ได้เข้ามาภายในสำนักงานแห่งนี้ แต่ว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทราบเหตุ จึงได้เข้ามาระงับเหตุได้ทัน และได้นำตัวนายกิติศักดิ์ไปพูดคุยเพื่อทำความเข้าใจแล้ว แต่ก็ยังมาเกิดเหตุขึ้นอีก

ทางด้าน นายชอุ่ม กรไกร ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาศรีสะเกษ เขต 1 และปฏิบัติหน้าที่ศึกษาธิการ จ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า เรื่องนี้ตนได้ทำหนังสือด่วนที่สุด รายงานให้เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ได้รับทราบแล้ว โดยตนได้ประสานงานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อให้เข้ามาช่วยดูแลรักษาความปลอดภัย พร้อมทั้งได้จัดเวรยามรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด ซึ่งเรื่องนี้ตนทราบว่าเจ้าทุกข์จะเข้าแจ้งความร้องทุกข์ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายกับผู้ก่อเหตุต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า สำหรับเหตุการณ์ทุบรถยนต์ภายในบริเวณสำนักงานแห่งนี้เคยเกิดขึ้นมาแล้วรวมทั้งสิ้น 8 ครั้ง โดยครั้งนี้เป็นครั้งที่ 9 ซึ่งสาเหตุที่นายกิติศักดิ์ วงศ์เลิศ ที่คาดว่าเป็นคนร้ายรายนี้ ได้เข้ามาทุบรถนั้น เนื่องจากว่า แค้นที่ขอเงินจากนางรุจิราภรณ์ หลาวทอง แม่ของตนเอง จำนวน 800,000 บาท เพื่อที่จะนำเอาไปซื้อรถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ยี่ห้อดัง แต่แม่ไม่ให้ จึงได้เข้ามาตระเวนทุบรถ เพื่อเป็นการระบายแค้น และเรียกร้องความสนใจจากแม่ ซึ่งเป็นที่น่าสังเกตว่า นายกิติศักดิ์จะทุบรถทุกคันที่พบเห็น แต่ว่าจะไม่เคยทุบรถญาติพี่น้องของตนเองที่ทำงานอยู่ภายในสำนักงานแห่งนี้ โดยก่อนหน้านี้ นายกิติศักดิ์ได้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมในข้อหาละเมิดอำนาจศาล ที่ห้ามไม่ให้เข้ามาภายในบริเวณสำนักงานแห่งนี้ และถูกจับกุมในข้อหาทำลายทรัพย์สินทุบรถยนต์ของนางโกลัญญา อ่อนหวาน แต่ว่านางรุจิราภรณ์ได้มีการเจรจายอมชดใช้ค่าเสียหายให้กับผู้เสียหายทั้งหมด จึงทำให้ไม่เป็นคดีความ และได้มีการประกันตัวนายกิติศักดิ์ออกมา จนกระทั่งมาก่อเหตุขึ้นอีกในครั้งนี้ โดยนายกิติศักดิ์เคยประกาศว่าจะทุบรถให้ได้ 10 คัน จนกว่าแม่จะยอมให้เงินตามที่ขอ

ผู้สื่อข่าวยังรายงานว่า จากเหตุการณ์ทุบกระจกรถที่เกิดขึ้นในวันนี้ ทำให้บรรดาข้าราชการและลูกจ้างประจำที่ปฏิบัติงานภายในสำนักงานแห่งนี้พากันหวาดผวามากยิ่งขึ้นกว่าเดิม เนื่องจากเกรงว่ารถของตนเองอาจจะโดนนายกิติศักดิ์เอาก้อนหินมาทุบเป็นรายต่อไป และได้มีการเรียกร้องให้นายชอุ่ม กรไกร ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาศรีสะเกษ เขต 1 และปฏิบัติหน้าที่ศึกษาธิการ จ.ศรีสะเกษ ใช้มาตรการที่เข้มงวด เพื่อแก้ไขปัญหานี้อย่างเร่งด่วนด้วย เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีกต่อไป



27-04-2559