ดาว์พงษ์โอนทุจริตสกสค.ให้ดีเอสไอ

รมว.ศธ.เสนอ ป.ป.ช.โอนคดีทุจริต สกสค.ให้ \"ดีเอสไอ\" เร่งดำเนินการเอาผิดเจ้าหน้าที่ 19 ราย ฐานละเว้นปฏิบัติหน้าที่ เผยล่าสุดสอบแล้วเจออีก แบงก์อนุมัติถอนเงินของ สกสค. 2 พันล้านอย่างผิดสังเกต ด้านแหล่งข่าว สตง.ระบุถ้าดีเอสไอรับคดีไว้ในมือ คาด 1 เดือนปิดบัญชีได้


พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กล่าวภายหลังการประชุมหารือกับผู้แทนจากสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) คณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้งบประมาณภาครัฐ (คตร.) ว่า ที่ประชุมได้มีการรายงานข้อมูลการตรวจสอบการทุจริตของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) ซึ่งมีทั้งในส่วนของการดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่รัฐที่ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ กรณีการซื้อตั๋วสัญญาของบริษัท บิลเลี่ยยน อินโนเวเท็ด กรุ๊ป จำกัด มูลค่าความเสียหายประมาณ 3,000 ล้านบาท ที่อยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบของ ป.ป.ช. และส่วนของคดีอาญาที่ สกสค.แจ้งความเอาผิดกับบริษัท บิลเลี่ยนฯ ด้วยตัวเองที่สถานีตำรวจนครบาลดุสิต รวม 3 ข้อหา คือ ความผิดจากการใช้เช็คความผิดฐานฉ้อโกง และความผิดฐานใช้หลักทรัพย์ปลอมมาค้ำประกันการซื้อตั๋วสัญญา หลังจากนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจส่งเรื่องทั้งหมดให้ ป.ป.ช. ขณะที่ทาง ปปง.ได้อาญัติทรัพย์บริษัท บิลเลี่ยนฯ และบุคคลที่เกี่ยวข้องไว้ จำนวน 153 รายการ มูลค่า 500-800 ล้านบาท โดยทาง สกสค.ได้ยื่นฟ้องต่อศาลแพ่ง ซึ่งศาลอยู่ระหว่างการพิจารณาว่าจะรับฟ้องหรือไม่ หากศาลรับฟ้อง และ สกสค.ชนะคดี เงินทั้งหมดก็จะกลับคืนมาที่ สกสค.

รมว.ศธ.กล่าวว่า ที่สำคัญจากการหารือกับที่ประชุม มีความเห็นร่วมกันว่าจะต้องมีการเร่งดำเนินการตรวจสอบเรื่องต่างๆ ให้เสร็จโดยเร็ว ตนจึงเสนอขอให้ ป.ป.ช.ดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่รัฐฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ จำนวน 19 ราย ซึ่งมีทั้งระดับเจ้าหน้าที่และอดีตคณะกรรมการ สกสค. สำหรับการดำเนินคดีอาญาแบ่งเป็น 2 แนวทาง คือ ให้ สกสค.ในฐานะผู้เสียหายฟ้องดำเนินคดีอาญาด้วยตัวเองซึ่งสามารถทำได้ หรือให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจโอนเรื่องนี้ให้ทางดีเอสไอซึ่งเป็นมืออาชีพดำเนินการแทน ซึ่งตนกำลังชั่งน้ำหนักว่าจะดำเนินการแบบใด

\"ผมยืนยันว่า เราเล่นเร็วแน่ ไม่รอแล้ว ทั้งนี้ยังมีส่วนที่ดีเอสไอกำลังตรวจสอบอยู่คือการฟอกเงิน ซึ่งก็เป็นเงินก้อนเดียวกับเงิน 3,000 ล้านบาท โยกกันไปซ้ายขวา คล้ายกับกรณีของสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น จำกัด ซึ่งผมยืนยันว่าจะดำเนินการกับทุกคนที่เกี่ยวข้อง กฎหมายต้องเป็นกฎหมาย รัฐบาลนี้ต้องยึดกฎหมายเป็นหลัก\" รมว.ศธ.กล่าว

พล.อ.ดาว์พงษ์กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม การโอนคดีให้ดีเอสไอดำเนินการต่อถือว่ายังไม่ได้ข้อยุติ เพราะทั้ง ป.ป.ช.และดีเอสไอจะต้องนำเรื่องดังกล่าวเข้าหารือในคณะกรรมการของหน่วยงานของเขา ว่าเห็นชอบเรื่องดังกล่าวหรือไม่ ทั้งนี้ สาเหตุที่อยากให้ดีเอสไอกลับมาดูแล ไม่ใช่ว่าไม่เชื่อมือ ป.ป.ช. แต่คิดว่าดีเอสไอสามารถดำเนินการได้เร็วกว่า เพราะ ป.ป.ช.งานเยอะ และการที่ให้ดีเอสดำเนินการก็ไม่ได้เป็นการเริ่มต้นจากศูนย์ เพราะดีเอสไอก็มีต้นทุนจากการเข้ามาตรวจสอบในเรื่องนี้อยู่แล้ว ขณะเดียวกันยังพบประเด็นใหม่กรณีมีธนาคารแห่งหนึ่งซึ่ง สกสค.ฝากเงินไว้ อนุมัติให้มีการเบิกถอนเงิน มูลค่า 2,000 ล้านบาท ซึ่งอยู่ระหว่างตรวจสอบว่าเป็นไปตามเงื่อนไขตกลงไว้กับ สกสค.หรือไม่ แต่ขอยังไม่บอกว่าเป็นธนาคารไหน เพราะอยู่ระหว่างการตรวจสอบ สำหรับกรณีการตรวจสอบการซื้อหุ้นบริษัท หนองคายน่าอยู่ จำกัด มูลค่าความเสียหายประมาณ 800 ล้านบาท ก็อยู่ระหว่างการตรวจสอบของดีเอสไอด้วยเช่นกัน
แหล่งข่าวระดับสูงในสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) กล่าวว่า ขณะนี้เอกสารและหลักฐานในการเอาผิดบริษัท บิลเลี่ยนฯ ค่อนข้างสมบูรณ์แล้ว เตรียมจะส่งให้หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พิจารณา และหากดีเอสไอรับเป็นคดีพิเศษก็สามารถใช้สำนวนที่สรุปไว้ส่งฟ้องได้ทันที คาดว่าใช้ระยะเวลาไม่เกิน 1 เดือนก็จะสามารถปิดคดีดังกล่าวได้.


ที่มา:ไทยโพสต์ Friday, October 16, 2015 - 00:00