ยังจำได้ไหม เผยชีวิตสองตายายคดีเก็บเห็ดป่า พ้นโทษแล้วแร้นแค้นกว่าเดิม

จากกรณีคดีสองตายายเก็บเห็ดป่าเมื่อปี 2556 ที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวได้ประสานไปยัง นายบุญช่วย น้อยเสนา ส.อบจ.เขต 2 และนายบุญยัง ภูเฉิดสาย ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 4 บ้านหนองกุงไทย ต.โนนสะอาด อ.ห้วยเม็ก จ.กาฬสินธุ์ เพื่อเข้าไปติดตามชีวิตความเป็นอยู่ของนายอุดม และนางแดง ศิริสอน สองสามีภรรยา ที่ถูกเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองและเจ้าหน้าที่ป่าไม้จับกุมระหว่างไปเก็บเห็ดที่บริเวณป่าสงวนแห่งชาติดงระแนง อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ ทำให้ต้องถูกจำคุก เป็นเวลา 1 ปี 8 เดือน ก่อนได้รับอิสรภาพในเดือนมกราคม ปีที่แล้ว แต่ชีวิตความเป็นอยู่ทั้งสองยังคงยากลำบาก ไม่มีรายได้และไม่มีอาชีพด้วยสภาพร่างกายที่ทรุดโทรมและแก่ชรามากขึ้น

นายอุดมกล่าวว่า ชีวิตตอนนี้แย่กว่าเดิม ก่อนถูกจับติดคุก ตนได้ประสบอุบัติเหตุถูกรถยนต์ชนจนมีอาการเลือดออกทางสมอง กระดูกไหปลาร้าฉีก และส่วนอื่นๆ ยังไม่หายเป็นปกติ แต่ต้องไปอยู่ในคุก ในเรื่องของการรักษาตัวก็ลำบาก เพราะไม่ได้รับการรักษาต่อเนื่อง ได้กินยาบ้างไม่ได้กินบ้าง สภาพร่างกายตอนนี้หูได้ยินไม่ถนัด เดินเหินไม่สะดวกเพราะขามีปัญหา เหนื่อยง่ายจะไปเก็บเห็ดเก็บฟืนเหมือนแต่เดิมก็ไม่กล้า เพราะกลัวว่าจะถูกจับอีกและไม่กล้าเข้าไปใกล้ป่าสงวนอีกเลย แม้ได้ญาติช่วยเรื่องอาหารการกิน หาหมอและเงินช่วยเหลือ แต่ชีวิตก็ลำบากมาก หนี้สินเมื่อครั้งที่เจ็บป่วยและติดคุกก็พอกพูนขึ้นสิ่งที่ต้องการตอนนี้คือความเห็นใจที่จะมาช่วยเหลือ โดยเฉพาะการเรียกร้องค่าชดเชยจากคดีเก็บเห็ด

ด้านนายเกษม ศรีภูธร น้องเขยที่ดูแลกล่าวว่า หนี้สินที่มีตอนนี้เป็นหนี้จากการกู้ยืม ธกส.มาตั้งแต่พี่เขยประสบอุบัติเหตุ โดยกู้ในนามพี่สาวและเมื่อถูกจับก็ต้องกู้อีกครั้งโดยตนเองเป็นผู้กู้ เพื่อมาเป็นค่าต่อสู้คดี ค่าเดินทาง รวมถึงค่ายารักษาตัวที่ต้องจ่ายทุกเดือนเมื่อครั้งที่ติดคุก จนตอนนี้มีหนี้สินเป็นเงินกว่า 100,000 บาท และก็มีดอกเบี้ยที่ต้องชำระอีก นอกจากนี้ยังกล่าวอีกด้วยว่า พวกเขาสองคนไม่มีใครดูแล อีกทั้งชีวิตลำบากมากขึ้นตั้งแต่ก่อนถูกจำคุกเพราะต้องเสียค่าเดินทาง ค่ายาและอาหารในการไปเยี่ยม จนบางวันต้องกินเท่าที่มี บางวันเพื่อนบ้านนำอาหารมาให้ก็ได้กินเยอะขึ้น

ทั้งนี้ นายบุญช่วย กล่าวว่า สำหรับครอบครัวนี้เท่าที่ทราบจากผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ยังมีความลำบากมากเพราะทั้งสองไม่มีอาชีพทำกิน อีกทั้งทราบว่ามีอาการหูตึง คาดว่าจะพาไปลงทะเบียนคนพิการเพื่อเข้ารับเบี้ยผู้พิการที่จะช่วยเหลือในด้านความเป็นอยู่อีกด้านหนึ่ง รวมทั้งการติดตามความคืบหน้าของคดีเพราะสองตายายยังรอความช่วยเหลืออยู่



ที่มา:มติชนออนไลน์ วันที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2558 เวลา 11:51:00 น