สพฐ.ทุ่ม60ล้านนโยบายลดเวลาเรียน เดินหน้า2พ.ย.

วันที่ 6 ตุลาคม นายการุณ สกุลประดิษฐ์ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(กพฐ.) เปิดเผยภายหลังการประชุมผู้บริหารระดับสูงของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.) ว่า สพฐ.ได้รับงบประจำปีงบฯ 2559 จำนวน 319,000 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละกว่า 60 ของกระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.) แต่เหลืองบดำเนินการเพียง 17,000 ล้านบาท โดยจะใช้โครงการตามแผนงานเดิมและโครงการเร่งด่วนตามนโยบายรัฐบาลและ ศธ. ใน 5 เรื่อง พร้อมกำหนดเจ้าภาพแต่ละโครงการชัดเจน ได้แก่

1.โครงการลดเวลาเรียนเพิ่มเวลารู้ ใช้งบเบื้องต้น 60 ล้านบาท มีผู้อำนวยการ(ผอ.)สำนักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา(สวก.) เป็นเจ้าภาพ

2.โครงการพัฒนาการเรียนการสอนภาษาอังกฤษ ใช้งบ 400 ล้านบาท มีผอ.สถาบันภาษาอังกฤษเป็นเจ้าภาพ

3.โครงการวัดผลและประเมินผลการศึกษา ใช้งบ 105 ล้านบาท มีรองผอ.สำนักทดสอบทางการศึกษา เป็นเจ้าภาพ

4.การปฏิรูปหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน ใช้งบ 400 ล้านบาท มีผอ.สวก. เป็นเจ้าภาพ

5.โครงการพัฒนาคุณภาพการศึกษาด้วยเทคโนโลยีสารสนเทศ(DLIT) ใช้งบ 1,700 ล้านบาท มีผอ.สำนักเทคโนโลยีเพื่อการเรียนการสอน เป็นเจ้าภาพ

“นโยบายลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้ เป็นนโยบายเร่งด่วน จะเริ่มเดินหน้าในวันที่ 2 พฤศจิกายนนี้ โดยหลังอบรมผู้นำการนิเทศการจัดกิจกรรมโครงการสมาร์ทเทรนเนอร์เสร็จสิ้น สพฐ.จะจัดประชุมผอ.และรองผอ.เขตพื้นที่ฯ ที่กำกับโรงเรียนนำร่องเพื่อทำความเข้าใจและซักซ้อมแนวปฏิบัติ จากนั้นจะจัดประชุมทางไกลผู้บริหารโรงเรียนและครูเพื่อสร้างความเข้าใจ อีกทั้ง สพฐ.จะเปิดศูนย์ปฏิบัติการเพื่อรับทราบปัญหา รวมถึงให้คำชี้แนะกับผู้บริหารและครูด้วย”

นายการุณ กล่าวว่า ที่ประชุมยังได้หารือเพื่อเร่งรัดการเบิกจ่ายงบปรับปรุงซ่อมแซมอาคารเรียน ในปีงบ 2558 กว่า 4,000 ล้านบาท โดยวงเงินไม่เกิน 2 ล้านบาท ต้องเบิกจ่ายภายในเดือนธันวาคม และยังมีงบลงทุนปีงบ 2559 ที่ สพฐ.ได้มาอีก 16,600 ล้านบาท จะต้องดำเนินการให้เสร็จสิ้นภายในเดือนมีนาคม 2559 ทั้ง 2 โครงการถือเป็นงบกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลที่ สพฐ. ต้องเร่งรัดดำเนินการ


ที่มา:MatichonOnline



07/10/2558