"น้องแกะแก๋" เด็กชายลาหู่ วัย 4 ขวบ อยู่บ้านบนดอยคนเดียว ได้เรียน

\"น้องแกะแก๋\" เด็กชายลาหู่ วัย 4 ขวบ อยู่บ้านบนดอยคนเดียว ได้เรียนหนังสือแล้ว

จากกรณี หนังสือพิมพ์ ข่าวสด เสนอข่าว เด็กชายชาวเขาเผ่าลาหู่ กำพร้าพ่อแม่ อาศัยหลับนอนในบ้านเก่าๆ บนดอยคนเดียวมานานนับปี และขอข้าวน้ำเพื่อนบ้านกินประทังชีวิตไปวันๆ ไม่ได้เรียนหนังสือ และไม่มีญาติพี่น้องดูแล ตามข่าวที่เสนอไปก่อนหน้านี้นั้น

ล่าสุด เมื่อวันที่ 24 ก.ค. ผู้สื่อข่าวได้ติดตามความคืบหน้า การช่วยเหลือ น้องแกะแก๋ หรือ น้องจะอือ แสนท้อ อายุ 4 ขวบ โดยทราบข่าวจากนายนัฐกานต์ ศรีกุนา ผอ.สำนักยานยนต์ของ วัดห้วยปลากั้ง ซึ่งเป็นผู้เดินทางไปรับตัวน้อง แกะแก๋ จากที่บ้านจะทอ ซึ่งมีนายพิชัย ภูสิต ผญบ.บ้านจะนู ม.8 ต.ห้วยชมพู อ.เมือง เชียงราย เป็นผู้ยินยอมให้วัดห้วยปลากั้ง รับมาดูแล ที่สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าภายในวัด

น้องแกะแก๋ได้เดินทางซ้อนมอเตอร์ไซค์ออกจากหมู่บ้านลงจากเขา จนมาถึงวัดตั้งแต่เมื่อวันที่ 22 ก.ค. ที่ผ่านมาแล้ว และได้เข้าพักอาศัยที่อาคารพบโชคคอนโดธรรม ภายในวัดห้วยปลากั้ง อ.เมือง เชียงราย นอนห้องพักรวมกับเด็กวัยไล่เลี่ยกันในห้องนอนรวม และทางวัดก็ได้ติดต่อสถานที่เรียนให้ทันที น้องแกะแก๋ ได้เข้าชั้นเรียนชั้นอนุบาล 1 โรงเรียนบ้านน้ำลัด อ.เมือง เชียงราย ห่างจากวัดไม่กี่ กม. โดยออกเดินทางไปโรงเรียนพร้อมกับเด็กที่บ้านเด็กกำพร้า มีรถของวัดไป รับ-ส่งแต่เช้าทุกวัน

ผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยังนายพิชัย ภูสิต ผญบ.บ้านจะนู เพื่อขอทราบเรื่องราวรันทดของน้องแกะแก๋ นายพิชัย เล่าว่า ชื่อจริงของน้องแกะแก๋ ชื่อว่า จะอือ แต่ชาวบ้าน และเด็ก ๆ ในหมู่บ้านเรียกว่า แกะแก๋ ซึ่งเป็นชื่อพ่อของน้อง พ่อของน้องเป็นคนสติไม่สมประกอบ เด็กในหมู่บ้านจึงเอาชื่อมาล้อเลียน จนบัจจุบันเรียกกันติดปากว่า “แกะแก๋” ชีวิตของน้องน่าสงสาร เกิดมาแม่ก็เสียชีวิต ส่วนพ่อก็เสพยา กินเหล้าจนสติไม่สมประกอบ กลายเป็นคนเร่ร่อน ไม่ยอมกลับมานอนบ้าน ตอนเล็กๆ ชาวบ้านในหมู่บ้านก็ช่วยกันดูแล หาข้าว แบ่งนม แบ่งอาหารให้กินเป็นประจำ เวลานอนน้องแกะแก๋ ก็จะกลับเข้าไปนอนในบ้าน แรกๆ พ่อนอนด้วย แต่พอช่วงหลัง พ่อเริ่มหายไป 2-3 วัน กลับมานอนที จนป่านนี้ หายไปนานนับปีก็ยังไม่กลับมา ไม่รู้เป็นตายร้ายดีอย่างไร

นิสัยของแกะแก๋ ก็เหมือนเด็กทั่วไป วิ่งเล่นในหมู่บ้านตามประสาเด็กบ้านนอก พอใกล้ค่ำก็จะเข้าไปนอนรอพ่อในบ้านทุกวัน แต่พ่อไม่กลับมา ก็เลยต้องนอนคนเดียวมืดๆ ในมุ้ง พอตอนเช้าก็จะออกมากินข้าวกับเพื่อนบ้าน และวิ่งเล่นในหมู่บ้าน เป็นอย่างนี้มานานนับปีกว่าแล้ว ตั้งแต่อายุ 2 ขวบกว่า หรือพอเดินได้ ตอนนี้ทราบว่าทางวัดจะรับไปดูแลก็ดีใจด้วย เพราะอยู่ในหมู่บ้านก็ไม่ได้ไปโรงเรียน วิ่งไปวิ่งมาไปวันๆ เท่านั้น

ด้านนายวัชรินทร์ แก้วกันทา ผอ.สำนักเด็กกำพร้า วัดห้วยปลากั้ง เปิดเผยว่า น้องแกะแก๋ เพิ่งเข้ามาอาศัยในบ้านเด็กกำพร้าของวัด ถือเป็นเด็กร่าเริงดี เข้ากับเด็กทั่วไปได้เป็นอย่างดี แรกรับได้ตรวจร่างกายเด็ก พบแผลตามร่างกายเล็กน้อย บริเวณเท้าเพราะไม่มีรองเท้าใส่ และมีตุ่มแมลงกัดตามแขนขาบ้างไม่มาก ฟันน้ำนมช่วงฟันหน้าหลอไปหลายซี่ ได้จัดหาเสื้อผ้าใหม่ให้ใส่ และฝึกให้อาบน้ำแปรงฟัน พร้อมๆ กับเด็กทั่วไป เวลาทำกิจกรรมเล่นตอนเย็นๆ กับเพื่อนๆ ก็ไม่มีบัญหา เล่นลูกบอล กระโดดเชือก วิ่งไล่จับ เวลาทานข้าวก็ทานเก่งมาก กินหมดเกลี้ยงทุกครั้ง

ผู้สื่อข่าวได้พยายามพูดคุยกับ น้องแกะแก๋ พอสื่อสารกันพอรู้เรื่อง เพราะเด็กยังมีอาการตื่นคนแปลกหน้าอยู่บ้าง ฟังภาษาไทยรู้เรื่องเป็นบางคำ โต้ตอบได้บางคำ น้องยังสนใจเครื่องใช้ไฟฟ้าเป็นพิเศษ ทั้งวิทยุ กล้องถ่ายรูปดิจิตอล พัดลม ตู้น้ำเย็น ทางพี่เลี้ยงต้องคอยแนะนำกลัวจะถูกไฟดูด น้องแกะแก๋ จะเดินสำรวจสิ่งต่างๆ รอบตัวในวัด อย่างสนใจ และเริ่มติดพี่เลี้ยงวิ่งตามพี่เลี้ยงตลอดเวลา

รายงานข่าวแจ้งว่า หลังจากข่าวของน้อง แกะแก๋ แพร่ออกไปทั้งโลกโซเชียลเน็ตเวิร์ก มีการแชร์กันไปหลายเว็บไซต์ ทำให้มีรายการทีวีหลายรายการติดต่อมาทางวัดห้วยปลากั้ง เพื่อจะถ่ายทำรายการชีวิตของน้องแกะแก๋

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า สำหรับบ้านเด็กกำพร้าของวัดห้วยปลากั้งนั้น แรกๆ รับเลี้ยงดูเด็กกำพร้าไม่เยอะ ส่วนใหญ่ เป็นเด็กชาวเขาที่พ่อแม่ ติดคุกจากคดียาเสพติด หรือเสียชีวิตจากโรคร้าย และเด็กที่ทางบ้านยากจนจึงเอาเด็กมาฝากให้วัดดูแล บัจจุบันทางวัด รับภาระเลี้ยงดูเด็กกำพร้าด้วยโอกาส กว่า 300 ชีวิตแล้ว และยังมีบ้านพักคนชรา ที่มีคนชราเกือบร้อยชีวิตมาพึ่งพิงพักอาศัยอยู่ในวัด อีกด้วย


ขอบคุณ:หนังสือพิมพ์ข่าวสด วันที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2557 เวลา 07:30:36 น.



25/07/2557