เรียนภาษา “จีน” ที่เมื่องไทย

ณ นาทีที่ประเทศจีน มีพลังทางเศรษฐกิจที่สามารถ สร้างแรงสั่นสะเทือนไปทั้งโลก ด้วยอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจในระดับมากกว่า 10% ต่อเนื่องมานานหลายปี และมีแนวโน้มเติบโตอย่างแข็งแกร่ง ทำให้ “ภาษาจีน” กลายเป็นภาษาสำคัญ เป็นประตูเปิดสู่โอกาสทางธุรกิจและอาชีพการงาน

บรรยากาศการเรียนภาษาจีนจึงคึกคักอย่างยิ่งในเมืองไทย เฉพาะสถาบันการศึกษาต่างๆ (ไม่นับรวมที่สอนพิเศษ) มีนักเรียนนักศึกษาไทยเรียนภาษาจีนมากถึงราว 500,000 คน

จริงอยู่เมืองไทยมีจำนวนคนรู้ภาษาจีนมากขึ้น แต่กลับปรากฎว่า ในหลายสาขาอาชีพยังขาดแคลนคนที่สามารถสื่อสารภาษาจีนในระดับการเจรจาธุรกิจได้

นั่นเพราะสไตล์การเรียนของคนจำนวนมาก โดยเฉพาะคนทำงานแล้วมักเรียนภาษาจีนแบบพูดคุยทักทายได้ทั่วไป แต่การเรียนรู้ระดับภาษาที่สูงขึ้น เป็นภาษาเชิงธุรกิจ เศรษฐกิจ ยังมีไม่มาก เพราะคิดกันว่าถ้าจะเอาดีทางภาษาจีนขนาดนั้นคงต้องบินไปเรียนที่ประเทศจีน ในสถาบันการศึกษาที่มีชื่อเสียงซึ่งก็ถูกต้องแต่ยังไม่ถูกทั้งหมด

เพราะหากสแกนดูหลักสูตรการเรียนการสอนภาษาจีนสำหรับกลุ่มคนทำงาน หลักสูตรหนึ่งที่น่าสนใจคือ “หลักสูตรภาษาจีนทางธุรกิจสำหรับบุคคลทั่วไป” ซึ่งเป็นความร่วมมือโดยตรงระหว่าง มหาวิทยาลัยภาษาและวัฒนธรรมปักกิ่ง (Beijing Language and Culture University: BLCU) ประเทศจีน กับ โรงเรียนอัสสัมชัญพาณิชยการ (ACC) ที่เป็นสถาบันการศึกษาในเครืออัสสัมชัญในประเทศไทย

จึงเป็นข้อดีของหลักสูตรนี้ ที่ทำให้คนทำงานสามารถเรียนกับหนึ่งในสถาบันด้านภาษาที่ดีที่สุดในประเทศจีน อย่างมหาวิทยาลัย ภาษาและวัฒนธรรมปักกิ่ง (BLCU) โดยไม่ต้องทิ้งงานบินไปเรียนเมืองจีน

อาจารย์ชาญชัย ลีลาวัฒนสุข ผู้อำนวยการหลักสูตรภาษาจีนทางธุรกิจ สำหรับบุคคลทั่วไป ภายใต้ความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยภาษาและวัฒนธรรมปักกิ่ง (BLCU) สำนักงานกรุงเทพฯ และโรงเรียนอัสสัมชัญพาณิชยการ กล่าวว่า หลักสูตรนี้เน้นให้คนทำงานแล้วมีโอกาสเพิ่มเติมทักษะภาษาจีนจากจุดเริ่มต้นมีความรู้ภาษาจีนเป็นศูนย์ ไปสู่การพัฒนาทักษะภาษาจีนให้ใช้ทำงานทางธุรกิจได้

“เป็นการเรียนในระบบภาคค่ำสำหรับบุคคลทั่วไป เรามีระบบการเรียนการสอน การสอบ ที่พัฒนาหลักสูตรร่วมกับมหาวิทยาลัยภาษาและวัฒนธรรมปักกิ่ง ทำให้ผู้เรียนสามารถพัฒนาทั้งการฟัง พูด อ่าน เขียน ภาษาจีนได้ในระดับธุรกิจ”

ซึ่งหลักสูตรนี้หาใช่เพิ่งเกิดขึ้น แต่เปิดสอนมานานกว่า 10 ปีแล้ว “โครงการนี้เริ่มเมื่อ 12 ปีก่อน บรรดาศิษย์เก่าโรงเรียนอัสสัมชัญพาณิชยการ ที่วันนี้เป็นผู้บริหารระดับสูงเป็นเจ้าของธุรกิจทำธุรกิจระดับนานาชาติมองกันว่านอกจากภาษาอังกฤษแล้ว ภาษาจีนมาแรงแน่ จึงจัดคณะไปเจรจาความร่วมมือด้านวิชาการ กับมหาวิทยาลัยภาษาและวัฒนธรรมปักกิ่ง (BLCU) ประเทศจีน ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยที่สอนภาษาจีนให้กับชาวต่างชาติโดยเฉพาะ และเป็นมหาวิทยาลัยของรัฐที่ดีที่สุดในประเทศจีน ก็ประสบความสำเร็จ ซึ่งเราภูมิใจมากเพราะเครืออัสสัมชัญเป็นสถาบันการศึกษาเพียงแห่งเดียวที่ได้รับความร่วมมือจาก BLCU ที่เป็นสถาบันการศึกษาที่มีคุณภาพสูงของประเทศจีน”

อาจารย์ชาญชัยให้ความรู้เพิ่มเติมว่า การสอนภาษาจีนให้กับชาวต่างชาติ กับการสอนภาษาจีนให้กับคนจีน มีเทคนิคการเรียนการสอนต่างกัน เพราะคนแต่ละชาติคุ้นเคยกับการออกเสียงไม่เหมือนกัน การ สอนภาษาจีนให้ชาวต่างชาติจึงต้องมีผู้เชี่ยวชาญโดยเฉพาะ เพื่อปรับ ให้ชาวต่างชาติพูดจีนได้เสมือนหนึ่งเป็นคนจีน

ว่ากันถึงจุดเด่นของหลักสูตรนี้ อาจารย์ชาญชัย กล่าวว่า คือการสร้างหลักสูตรร่วมกับมหาวิทยาลัยภาษาและวัฒนธรรมปักกิ่ง (BLCU) โดยนำหลักสูตรของ BLCU มาเกือบทั้งหมด บวกกับส่วนที่ ACC พัฒนาให้สอดคล้องกับประเทศไทย ซึ่งก็เป็นสิ่งที่ทางจีนไม่มี เช่น หลักสูตรแปลไทย-จีน

“การเรียนหลักสูตรนี้จึงเหมือนไปเรียนที่ BLCU ประเทศจีน เพราะ ใช้หลักสูตรเดียวกัน หนังสือเล่มเดียวกัน ครูที่สอนทุกคนก็จบมาจาก BLCU ซึ่งเชี่ยวชาญการสอนภาษาจีนให้ชาวต่างชาติโดยเฉพาะ”

หลักสูตรนี้จึงถูกออกแบบมาตั้งแต่แรกให้มุ่งเน้นสำหรับบุคคลทั่วไปที่ต้องการเรียนรู้ภาษาจีนอย่างมีคุณภาพ โดยไม่ต้องทิ้งโอกาสในงานปัจจุบันที่ทำอยู่

“เราทำเป็นหลักสูตรภาคค่ำ เพื่อคนทำงานจะได้ทำงานไปด้วย เรียนไปด้วย ไม่ต้องทิ้งงานไปเรียนถึงประเทศจีนและเมื่อเรียนจบยังได้รับประกาศนียบัตร (Diploma) และต่อยอดรับวุฒิปริญญาตรี (Bachelor Degree) ของมหาวิทยาลัยภาษาและวัฒนธรรมปักกิ่งด้วย ซึ่งไม่มีใครสามารถเปิดสอนอย่างเราได้”

มหาวิทยาลัยภาษาและวัฒนธรรมปักกิ่ง (BLCU)
ก่อตั้งโดยรัฐบาลจีน เมื่อปีค.ศ. 1962 เพื่อสอนภาษาจีนให้กับชาวต่างชาติโดยเฉพาะ โดยกระบวนการเรียนการสอนได้ผ่านการศึกษาค้นคว้าวิธีการสอนภาษาจีนให้ชาวต่างชาติให้ได้ผลตามหลักวิทยาศาสตร์มากที่สุด

นักศึกษาจากทั่วโลกกว่า 176 ประเทศ เดินทางมาศึกษาภาษาจีนที่มหาวิทยาลัยนี้ โดยมีนักศึกษาจบการศึกษาจากที่นี่มากกว่า 700,000 คนทั่วโลก

ปัจจุบัน BLCU เปิดทำการสอนทั้งวิชาด้านภาษาและวัฒนธรรม วิชาวรรณคดี เศรษฐศาสตร์ กฎหมาย การศึกษา การบริหาร ฯลฯ มีหลักสูตรตั้งแต่ระดับปริญญาตรี ปริญญาโท และปริญญาเอก
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

สแกนดูหลักสูตร “หลักสูตรศิลปศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาภาษาจีนเพื่อเศรษฐกิจและการค้า” ที่มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ

..เป็นหลักสูตรเอกภาษาจีนที่มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ พัฒนาหลักสูตรร่วมกับมหาวิทยาลัยภาษาและวัฒนธรรมปักกิ่ง (BLCU) นักศึกษาต้องไปเรียนที่ปักกิ่ง 1 ปี จบแล้วได้ปริญญาของทั้งสองมหาวิทยาลัย..

น่าสนใจว่าแล้วอย่างนี้การเรียนการสอนจะเป็นอย่างไร เคี่ยวข้นเบาๆ หรือโหดหินแค่ไหน?

อาจารย์ชาญชัย ให้ข้อมูลว่าเพราะหลักสูตรนี้สร้างขึ้นเพื่อคนที่แม้แต่รู้ภาษาจีนเป็นศูนย์ก็เรียนได้ จึงเริ่มสอนตั้งแต่ขั้นพื้นฐานภาษาจีน แต่หากมีพื้นฐานมาแล้วก็สอบข้ามชั้นไปเรียนปี 1 เทอม 2 หรือปี 2 เทอม 1 ได้ หลักสูตรทั้งหมดใช้เวลาเรียน 4 ปี แต่ยืดหยุ่นให้เรียนได้นานถึง 7 ปี เพราะสำหรับคนทำงานก็มีบ้างที่บางช่วงต้องขอดร็อปเพราะงานเยอะ

“การเรียนปี 1 เราปูพื้นฐานภาษาจีนในชีวิตประจำวัน ฟัง-พูด-อ่าน-เขียน แบบเข้มข้น ปี 2 เรียนภาษาระดับกลาง ปี 3-4 เรียนภาษาสำหรับธุรกิจ เช่น บทสนทนาก็จะคุยเรื่องค้าขาย คนจีนเขาเจรจาการค้ากันอย่างไร การเขียนจดหมายธุรกิจเขียนอย่างไร การสั่งออร์เดอร์ การเคลมเมื่อสินค้าเกิดปัญหา ฯลฯ เรายังมีเรียนเศรษฐศาสตร์จีน และความรู้พื้นฐานของธุรกิจจีน

ข้อสอบเราก็ใช้มาตรฐานเดียวกับประเทศจีน และการจบการศึกษา ถ้าเลือกทำวิทยานิพนธ์เป็นภาษาจีน เมื่อจบหลักสูตรจะได้รับวุฒิปริญญาตรีจาก BLCU ปักกิ่ง”

กว่า 10 ปีของหลักสูตรนี้มีผู้สำเร็จการศึกษาไปแล้ว 480 คน สำหรับคนที่สนใจภาษาจีน อาจารย์ชาญชัยแนะนำว่าอย่าลังเล เพราะการปล่อยเวลาให้ผ่านไปเท่ากับเสียโอกาส

นับวันภาษาจีนยิ่งมีความสำคัญมากขึ้น ผู้ที่มีทักษะในการทำงานด้านต่างๆ อยู่แล้วถ้าสามารถพูด เขียน อ่าน ภาษาจีนได้คล่อง และเป็นภาษาจีนระดับเพื่อการทำงานทำธุรกิจได้ด้วย ก็จะมีศักยภาพ
ในการแข่งขันมากขึ้น สามารถก้าวเข้าสู่โอกาสใหม่ๆ

หลักสูตรของเราไม่อยากให้คนเรียนเสียเวลาเปล่า เราจึงสอนอย่างเข้มข้น มีหลักสูตรแน่นอน มีช่วงเวลาเรียนแน่นอน ฉะนั้นถ้าคุณกัดฟันเรียน 4 ปีจบ คุณใช้งานได้จริง และยังได้ปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยภาษาและวัฒนธรรมปักกิ่ง สามารถไปต่อปริญญาโทได้อีกด้วย

โครงการความร่วมมือทางการศึกษา มหาวิทยาลัยภาษาและวัฒนธรรมปักกิ่ง (BLCU) และ เครืออัสสัมชัญ

1.หลักสูตรภาษาจีนทางธุรกิจ สำหรับบุคคลทั่วไป ภายใต้ความร่วมมือระหว่าง BLCU กับ โรงเรียนอัสสัมชัญพาณิชยการ เป็นหลักสูตรเรียนภาคค่ำ สำหรับกลุ่มคนทำงาน

2.หลักสูตรศิลปศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาภาษาจีนเพื่อ เศรษฐกิจและการค้า ภายใต้ความร่วมมือระหว่าง BLCU กับมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ เป็นหลักสูตรปริญญาตรี เอกภาษาจีน ซึ่งมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญพัฒนาหลักสูตรร่วมกับมหาวิทยาลัยภาษาและวัฒนธรรมปักกิ่ง (BLCU) นักศึกษาต้องไปเรียนที่ปักกิ่ง 1 ปี จบแล้วได้ปริญญาของทั้งสองมหาวิทยาลัย (รับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย เรียนภาคกลางวัน)

3.หลักสูตรศิลปศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการสอน ภาษาจีนเป็นภาษาต่างประเทศ (หลักสูตรนานาชาติ) ภายใต้ความร่วมมือระหว่าง BLCU กับ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ เป็นหลักสูตรปริญญาโท เรียนภาคค่ำ เรียนจบสามารถเป็นครูสอนภาษาจีนได้

------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

..มีคนบอกว่าที่นี่เรียนเข้มมาก ก็นี่ล่ะถึงเลือก เพราะอยากได้คุณภาพ และมาเรียนที่นี่ ก็เหมือนกับเราไปนั่งเรียนที่มหาวิทยาลัยที่ปักกิ่ง โดยที่ไม่ต้องลาออกไปเรียน..

คุณรินทร์ฤดี พลายเพ็ชร์ (คุณเชอร์รีล) ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารทรัพยากรบุคคล บริษัทด้านธุรกิจท่องเที่ยว เป็นหนึ่งในนักศึกษาน้องใหม่ของหลักสูตรภาษาจีนทางธุรกิจฯ มหาวิทยาลัยภาษาและวัฒนธรรมปักกิ่ง สำนักงานกรุงเทพฯ งานปัจจุบันคุณเชอร์รีลดูแลงานบริหารทรัพยากรบุคคลของ 10 บริษัทในเครือด้วยภารกิจที่ต้องตีโจทย์่ความต้องการของงานมากมายหลายตำแหน่งแล้วคัดกรองคน ทำให้เธอยิ่งเห็นความสำคัญของภาษาโดยเฉพาะภาษาจีน ที่ขณะนี้งานหลายๆ ส่วนต้องการได้คนทำงานที่สามารถสื่อสารภาษาจีนได้ดี

“ภาษาเป็นเรื่องสำคัญ ในบางงาน คนที่มีความสามารถดัานภาษาจะได้เงินเดือนสูงมากและวันนี้แค่ภาษาอังกฤษไม่พอ ควรจะพูดภาษาจีนได้ด้วย ซึ่งขณะนี้ นอกจากทักษะในการทำงานแล้ว เรายังใช้ภาษาจีนเป็นเกณฑ์สำคัญในการตัดสินใจควบคู่กันไปด้วย เช่น ตำแหน่งบริหาร มีผู้สมัครเข้ามาเยอะ ส่วนใหญ่มีทักษะการบริหารที่ดีมาก แต่พูดภาษาจีนไม่ได้ เราก็ไม่รับ ซึ่งน่าเสียดายมาก ขณะที่พนักงานของเราที่พูดภาษาจีนได้ เมื่อเกษียณอายุงานแล้ว เรายังเชิญให้เขาทำงานกับเราต่อในตำแหน่งที่ปรึกษา เพราะคนกลุ่มนี้เป็นทรัพยากรสำคัญของเรา

และเพราะเชื่อว่า ชีวิตคือ “Life Long Learning” งานจะมากแค่ไหน ก็ต้องจัดสรรเวลาไปเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ เพิ่มเติมเสมอ โดยไม่ได้เรียนแบบสะเปะสะปะ แต่เลือกเรียนในสิ่งที่เสริมการทำงาน

การเรียนของเธอเหมือนถนนหลายสาย คุณเชอร์รีลเรียนจบปริญญาตรี เอกภาษาอังกฤษ จากมหาวิทยาลัยหอการค้าไทยปริญญาโท สาขาการจัดการทรัพยากรมนุษย์ (นานาชาติ) จากสถาบันศศินทร์ MBA สาขา Business Communication จาก มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย Mini MBA การบริหารทรัพยากรมนุษย์ จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย หลักสูตร HR Global ที่ SHRM แคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา และต้นปีหน้าได้รับเชิญให้เข้าเรียนหลักสูตร Executive Management ที่ Kelloge สหรัฐอเมริกา

และด้วยความชอบและเห็นความสำคัญเรื่องภาษา คุณเชอร์รีลจึงพูด อ่าน เขียน ได้เกือบ 10 ภาษา ทั้งภาษาอังกฤษ ภาษาเกาหลี และภาษาอาเซียน อย่าง ภาษาพม่า ขะแมร์ มาเลย์ ฯลฯ โดยเธอเรียนภาษาอาเซียนมาตั้งแต่ 10 ปีที่แล้ว แถมพาลูกไปเรียนด้วย ลูกจึงพูด อ่าน เขียน ภาษาอาเซียนได้เช่นกัน!

แต่กับภาษาจีนยังไม่เคยได้เรียนจริงจัง เธอว่ารู้ภาษาจีนระดับงูๆปลาๆ พอสื่อสารได้ แต่ก็สนใจอยากเรียน หาข้อมูล ดูหลักสูตรมาหลายที่ ที่สุดก็ตัดสินใจเลือกเรียน หลักสูตรภาษาจีนทางธุรกิจ ซึ่งเป็นโครงการภายใต้ความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยภาษาและวัฒนธรรมปักกิ่ง (BLCU) และโรงเรียนอัสสัมชัญพาณิชยการ

เธอเล่าเรื่องขำๆ ของจุดเริ่มต้นการเรียนภาษาจีน และต่อเนื่องมาถึงวันนี้

“ตอนจบปริญญาตรี ใฝ่ฝันอยากทำงานสายการบินไชน่าแอร์ไลน์ เพราะอยากทำงานกับคนจีน ไปสมัครงานเคาน์เตอร์ขายตั๋วเครื่องบินเขาเห็นหน้าตาเราเป็นคนจีน น่าจะพูดจีนได้ แต่เราบอกพูดจีน ไม่ได้ แต่ขอทำงานได้ไหม อยากทำ เขาบอกไม่ได้ พูดจีนไม่ได้ ไม่รับ เลยบอกเขาว่าขอเวลา 3 เดือน ถ้าพูดจีนไม่ได้ยอมลาออก ปรากฎว่าได้ทำงาน ก็ใช้วิธีนั่งอยู่เคาน์เตอร์ ฟังเพื่อนข้างๆ พูดภาษาจีนกับลูกค้า จองตั๋วเครื่องบินกี่คน กี่วัน เราก็จดเป็นภาษาคาราโอเกะ แล้วไปขอให้ผู้จัดการช่วยสอน เขาใจดีสอนให้หลังเลิกงานวันละ 1 ชั่วโมง เดือนกว่าๆ ก็ขายตั๋วเครื่องบินเป็นภาษาจีนได้ เราก็ฮึกเหิม ไปหาที่เรียนภาษาจีน ซึ่ง 20 ปีก่อนยังไม่มีหลักสูตรนี้ แต่โดยส่วนตัว อยากเลือกเรียนในสถาบันการศึกษาที่ดีและดัง แล้วจังหวะชีวิตช่วงนั้นได้เรียนปริญญาโท ก็เรียนไปด้วยทำงานไปด้วย เลยห่างเรื่องเรียนภาษาจีนไป”

กระทั่งปี 2551 หลังเรียนจบที่ศศินทร์แล้ว เธอวางแผนว่าถึงเวลา เรียนภาษาจีนอย่างจริงจัง

“ช่วงนั้นทำงานสายงาน HR แล้ว อย่างที่บอกเราจะเลือกสิ่งที่ดีที่สุด ดังนั้นจะเรียนก็ต้องหาข้อมูล ดูเนื้อหาหลักสูตร ดูกระทั่งตำราเรียนยังคิดว่าถ้าต้องไปเรียนที่เมืองจีน ก็ต้องลาออกจากงาน แล้วครอบครัวล่ะใครจะดูลูก แต่พอมาเจอหลักสูตรภาษาจีนทางธุรกิจ สำหรับคนทั่วไป ที่อัสสัมชัญฯ ตอบโจทย์ชีวิตมากเลยโรงเรียนก็อยู่ในย่านธุรกิจ ใกล้บ้าน ใกล้ที่ทำงาน แถมเรียนจบยังได้ปริญญาจากมหาวิทยาลัยภาษาและวัฒนธรรมปักกิ่ง (BLCU) อีกนี่ล่ะใช่เลย”

คุณเชอร์รีลเผยความประทับใจเมื่อครั้งมาหาข้อมูล เพราะความที่ทำงานด้าน HR เธอจึงถามทุกเรื่องอย่างละเอียด

“เราก็ถามทุกอย่าง เจ้าหน้าที่ก็เก่งตอบได้ละเอียดทั้งหมด ตอบภาษาจีนได้ด้วย นี่เป็นด่านแรกที่ประทับใจ และเราก็อยากรู้โปรไฟล์อาจารย์ที่สอนว่าจบจากที่ไหน เจ้าหน้าที่บอกเรียนจบจากมหาวิทยาลัยภาษาและวัฒนธรรมปักกิ่งทั้งหมดเลย เลยขอซื้อตำราเรียนไปให้เจ้านายดู เจ้านายเป็นคนจีน เขาเห็นหนังสือ เขาก็บอกเล่มเดียวกับที่ไอเรียนเลย ยูไปเรียนเลยนะ”

ล่าสุด ในปีนี้ คุณเชอร์รีลเข้าเรียนหลักสูตรภาษาจีนทางธุรกิจ ที่โรงเรียนอัสสัมชัญพาณิชยการ โดยไม่รู้ว่านี่เป็นหลักสูตร 4 ปี

“เพิ่งรู้ว่าตอนมานั่งเรียนกับเพื่อน คือตอนนั้นรู้แต่ว่าทุกอย่างมันใช่ หลักสูตรลงตัว เลยไม่ได้ถามเรื่องเวลา แต่ไม่เป็นไร ชีวิตคือ Life Long Learning คนเราต้องเรียนรู้ตลอดชีวิตอยู่แล้ว 4 ปีจึงไม่เป็นอุปสรรค และงานของเราก็ต้องใช้ภาษาจีนเป็นเรื่องสำคัญ” แม้เพิ่งเริ่มเรียนได้ 2 เดือน แต่เป็น 2 เดือนที่คนรอบข้างเริ่มทักว่าภาษาจีนของเธอดีขึ้น

“เพิ่งเรียนปี 1 ค่ะ ขอเรียนตั้งแต่พื้นฐานภาษาจีนเลย เพราะไม่เคยเรียนอย่างเป็นระบบ จึงคิดว่าภาษาจีนของเราเป็นศูนย์ เริ่มเรียนเดือนพฤษภาคม เพื่อนที่ทำงานไม่รู้ว่าเรามาเรียน เขาก็ทัก ภาษาจีนเราดีขึ้นนะ พูดไม่สลับไปสลับมาแล้ว”

เมื่อถามถึงเรื่องการต้องสอบ และต้องทำวิทยานิพนธ์เป็นภาษาจีน เธอว่า ไม่กลัว เรียนแบบคนทำงานแล้ว ไม่กดดันว่าต้องแข่งกับใคร เพื่อนในกลุ่มก็ช่วยกันเรียน ส่วนการเขียนวิทยานิพนธ์ หลักสูตรนี้มีทางเลือกให้ ถ้าเรียนครบหลักสูตรโดยไม่ทำวิทยานิพนธ์ก็เรียนจบได้เช่นกันโดยจะได้รับเป็นประกาศนียบัตร แต่ถ้าทำวิทยานิพนธ์ด้วยก็จะได้รับวุฒิปริญญาตรี ซึ่งเธอตั้งใจแล้วว่าจะทำวิทยานิพนธ์เป็นภาษาจีนแน่นอน

“มีคนบอกว่าที่นี่เรียนเข้มมาก ก็นี่ล่ะถึงเลือก เพราะอยากได้คุณภาพ และมาเรียนที่นี่ก็เหมือนกับเราไปนั่งเรียนที่มหาวิทยาลัย ที่ปักกิ่ง โดยไม่ต้องลาออกไปเรียน เพราะด้วยหน้าที่การงานของเรา ถ้าต้องลาออก 4 ปีที่หายไปกับรายได้และงานที่ดี เจ้านายที่ดี เพื่อนร่วมงานที่ดี มันก็ไม่ง่ายที่จะกลับมา แล้วครอบครัวเราอีกล่ะ ที่ต้องดูแล การเรียนที่นี่จึงตอบโจทย์เราที่สุด”
-------------------------------------------
สนใจข้อมูล หลักสูตรภาษาจีนทางธุรกิจ สำหรับบุคคลทั่วไป
ติดต่อ คุณวิภาวัลย์ ชื่นทรวง, คุณณัษฐภรณ์ จินดาสุรารักษ์
โทรศัพท์ 0-2211-6699, 0-2212-5314
โทรสาร 0-2675-6174


ที่มา:คมชัดลึกออนไลน์วันที่ 12-10-2557



12/10/2557