บอร์ด สทศ.พิจารณาลดวิชาสอบ O-NET

เมื่อวันที่ 20 พ.ย.57 ที่สถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (สทศ.) พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย รมว.ศึกษาธิการ พร้อมด้วยนายกฤษณพงศ์ กีรติกร รมช.ศึกษาธิการ ได้เดินทางเข้าตรวจเยี่ยมและติดตามผลการดำเนินงานของ สทศ.
โดย พล.ร.อ.ณรงค์ เปิดเผยว่า ได้หารือถึงแนวคิดให้ปรับลดจำนวนกลุ่มสาระการเรียนรู้ ในการจัดสอบแบบทดสอบทางการ ศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) จากเดิมสอบ 8 กลุ่มสาระ ให้เหลือเพียง4วิชาหลัก ได้แก่ คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ภาษาไทย และภาษาอังกฤษ ส่วนวิชาอื่นๆ เช่น สังคมศึกษา พลศึกษา สุขศึกษา ให้โรงเรียนเป็นผู้จัดสอบเอง ซึ่งในที่ประชุมส่วนใหญ่เห็นด้วย แต่มีข้อเสนอว่าอยากให้ สทศ.จัดสอบกลุ่มสาระสังคมศึกษาด้วย เนื่องจากมีวิชาย่อยที่สำคัญ เช่นประวัติศาสตร์ หน้าที่พลเมือง จึงควรใช้ข้อสอบกลางเดียวกันเพื่อมาตรฐาน แต่ทั้งนี้ยังไม่ถือเป็นข้อสรุปจึงมอบให้บอร์ด สทศ.ประชุมหารือและนำเสนอต่อ ศธ.พิจารณาอีกครั้ง
\"ขณะนี้ ศธ.กำลังจัดทำโครงการปฏิรูปสู่การปฏิบัติ โดยกระจายอำนาจให้ 300 โรงเรียน ใน20 เขตพื้นที่การศึกษาทั่วประเทศ สามารถบริหารจัดการในทุกเรื่องด้วยตนเอง ซึ่งหลักสูตรการเรียนการสอนก็เป็นส่วนหนึ่งที่โรงเรียนต้องไปดำเนินการออกให้สอดคล้องกับบริบทของแต่ละพื้นที่ ซึ่งหากใช้ข้อสอบที่ออกโดยส่วนกลางทั้งหมด ก็อาจจะไม่สอดคล้องกับหลักสูตรของแต่ละพื้นที่\"
รมว.ศึกษาธิการ กล่าวและว่า ส่วนที่กังวลว่าการให้โรงเรียนจัดสอบเอง ข้อสอบจะมีมาตรฐานไม่เท่าเทียมกัน และมีผลต่อการนำไปใช้ในการเข้าศึกษาต่อนั้น คิดว่าที่สุดแล้วผู้ใช้จะตัดสินเองว่าจะพิจารณาใช้คะแนน O-NET วิชาใด ในสัดส่วนเท่าใด
พล.ร.อ.ณรงค์ กล่าวต่อไปว่า ที่ประชุมยังได้หารือถึงการจัดการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติระดับอุดมศึกษา (U-NET) โดยต้องเดินหน้าต่อไป แต่จะให้เป็นเรื่องของความสมัครใจไม่บังคับสอบ ซึ่งเบื้องต้นจะวัดสมรรถนะการสื่อสารด้านภาษาไทยและภาษาอังกฤษในระดับปริญญาตรี ซึ่งทาง สทศ.ต้องเร่งสร้างความหน้าเชื่อถือให้สถานประกอบการเห็นความสำคัญของการสอบ U-NET และนำคะแนนไปใช้ในการพิจารณารับคนเข้าทำงาน หากทำได้เช่นนี้ต่อไปมหาวิทยาลัยและนักศึกษาก็จะให้ความสำคัญกับการสอบนี้มากขึ้น
นายสัมพันธ์ พันธุ์พฤกษ์ ผอ.สทศ. กล่าวว่า การจัดสอบดังกล่าวยังไม่ได้เรียกว่าเป็นการจัดสอบ U-NET แต่เป็นการให้บริการสอบวัดสมรรถนะของ สทศ.ในรูปแบบหนึ่ง ซึ่งหากสถานประกอบการมีความพึงพอใจก็สามารถนำคะแนนไปใช้ในการพิจารณารับคน เข้าทำงานได้



ที่มา:หนังสือพิมพ์สยามรัฐ Fri, 21/11/2014 - 15:04



22/11/2557