ศาลอาญาสสั่งจำคุกคนละ 26 ปี แก๊งฮั้วประมูลนมโรงเรียน

ศาลอาญาสสั่งจำคุกคนละ 26 ปี แก๊งฮั้วประมูลนมโรงเรียนที่ จ.เชียงใหม่ แต่จำจริงเหลือเพียงคนละ 10 ปีตามกฎหมาย พร้อมสั่งปรับหนักอีกคนละกว่า 3 ล้านบาท


เมื่อวันที่ 21 ต.ค. ที่ห้องพิจารณา 805 ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลได้อ่านคำพิพากษาคดี ฮั้วประมูล หมายเลขดำ อ.3603/53 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 4 เป็นโจทก์ฟ้อง นายโสภณ ใจจันทร์ อายุ 49 ปี เจ้าของ หจก.เชียงใหม่โสภณพาณิชย์ นายอินสม นาระต๊ะ อายุ 62 ปี พนั กงานขับรถ หจก.เชียงใหม่ฯ และ นายณัฐภูมิ หรืออ้ายมั่น ขันคำ อายุ 33 ปี ผู้จัดการแผนกนม หจก.เชียงใหม่ฯ เป็นจำเลยที่1-3 ตามลำดับ ในความผิดฐาน ร่วมกันตกลงในการเสนอราคาเพื่อวัตถุประสงค์ที่จะให้ประโยชน์แก่ผู้หนึ่งผู้ใดซึ่งมีสิทธิ์ทำสัญญากับหน่วยงานของราชการ โดยเลี่ยงการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรม

ตามฟ้องโจทก์วันที่ 2 พ.ย. 53 ระบุความผิดสรุปว่า เมื่อระหว่างวันที่ 6 ต.ค.–18 พ.ย.51 จำเลยทั้งสามได้ร่วมกันตกลงเสนอราคา เพื่อทำสัญญาจัดซื้อนมโรงเรียนพาสเจอร์ไรซ์ และนมยูเอชที ขนาด 200 มิลลิลิตร กับศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก โรงเรียนระดับประถมศึกษา ศูนย์การศึกษานอกโรงเรียน (กศน.) โรงเรียนในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) จำนวน 9 พื้นที่ รวม 13 สัญญา ใน จ.เชียงใหม่ โดยใช้กลอุบาย และการสมยอม เพื่อกีดกันไม่ไห้ผู้มีสิทธิเสนอราคาตามประกาศการประกวดราคาอันมิใช่เป็นธรรม โดยทุกครั้งที่มีการประกวดราคาจัดซื้อนมโรงเรียน จำเลยคนหนึ่งคนใดจะเสนอราคากลาง ขณะที่จำเลยคนอื่นจะเสนอราคาที่สูงกว่าราคากลางเสมอ เหตุเกิดที่ ต.บ้านหอย อ.จอมทอง , ต.ท่าเดื่อ อ.ดอยเต่า , ต.อมก๋อย อ.อมก๋อย จ.เชียงใหม่ และที่อื่นเกี่ยวพันกัน โจทก์จึงขอให้ศาลพิพากษาลงโทษพวกจำเลยตาม พ.ร.บ. ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2542 มาตรา 3,4 ประกอบประมวลกำหมายอาญา มาตรา 83,91 จำเลยให้การปฏิเสธ

ศาลพิเคราะห์คำเบิกความและพยานหลักฐานทั้งสองฝ่ายที่นำสืบหักล้างกันแล้วเห็นว่า การกระทำของพวกจำเลยเป็นการฝ่าฝืนวัตถุประสงค์ของการประกวดราคา ย่อมทำให้หน่วยงานราชการได้รับความเสียหาย พิพากษา ตาม พ.ร.บ. ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2542 มาตรา 3,4 ประกอบประมวลกฎหมายอาญามาตรา 83,91 เป็นความผิดหลายกรรมต่างกันรวม 13 กระทง จำคุกกระทงละ 2 ปี เป็นจำคุกคนละ 26 ปี อย่างไรก็ตามตามกฎหมายให้จำคุกจำเลยไว้สูงสุดคนละ10 ปี ปรับคนละ 3,706,741 บาท.


ที่มา:หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ วันอังคาร 21 ตุลาคม 2557 เวลา 16:36 น.



21/10/2557