"กมล"ชี้ไม้เรียวหมดยุคฟื้นยาก เกรงถูกมองรุนแรง

กมลยอมรับฟื้นใช้ไม้เรียวลงโทษเด็กนักเรียนทำได้ยากในยุคนี้ เพราะถูกมองว่าเป็นการกระทำรุนแรง ละเมิดสิทธิมนุษยชน ชี้แต่อาจทำได้ถ้าโรงเรียน ผู้ปกครอง ครู ทำข้อตกลงร่วมกัน อนุโลมให้ครูลงโทษตีเด็กที่มีพฤติกรรมเกเรได้
นายกมล รอดคล้าย เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาฯ กพฐ.) กล่าวถึงกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีความต้องการให้กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ฟื้นมาตรการลงโทษด้วยไม้เรียว เพราะเชื่อว่าการใช้ไม้เรียวในการลงโทษเด็ก จะเป็นการช่วยสร้างเด็กให้เป็นคนดีสู่สังคมได้ ว่า เรื่องดังกล่าวถือเป็นเรื่องที่ดี เพราะการใช้ไม้เรียวลงโทษจะทำให้เด็กหลาบจำ ไม่ทำพฤติกรรมที่ผิดข้อบังคับของโรงเรียนอีก แต่ต้องยอมรับว่าเรื่องนี้ทำได้ยาก อย่างไรก็ตาม การลงโทษในลักษณะนี้มีในหลายโรงเรียนขนาดเล็กที่อยู่ในต่างจังหวัด แต่การลงโทษโดยใช้ไม้เรียวจะต้องเกิดจากการตกลงร่วมระหว่างครู นักเรียน และผู้ปกครอง ถึงมาตรการการลงโทษการกระทำผิด ซึ่งระดับการลงโทษก็ขึ้นอยู่กับลักษณะของความผิด ดังนั้นการลงโทษด้วยไม้เรียวจะใช้ได้ก็ต่อเมื่อผู้บริหารโรงเรียนและครูอาจต้องทำความเข้าใจพูดคุยกับผู้ปกครองและเด็ก ถึงความเหมาะสมในการนำมาตรการการลงโทษด้วยไม้เรียวกลับมาใช้ และสำหรับโรงเรียนที่พบเด็กพฤติกรรมเกเรจำนวนมาก และผู้ปกครองเห็นว่ามีความจำเป็น ก็น่าจะอนุโลมการใช้ไม้เรียวในการลงโทษ
“ในสมัยผมยังเด็กก็โดนตีมาโดยตลอด แต่เมื่อถึงยุคเวลาหนึ่ง เรื่องสิทธิมนุษยชนเป็นเรื่องสำคัญ ก็ทำให้มองว่าการใช้ไม้เรียวเป็นสิ่งที่รุนแรงไปสำหรับเด็ก จะเป็นการละเมิดสิทธิเด็ก ทำให้ต้องมีการออกระเบียบห้ามลงโทษด้วยไม้เรียว แต่ในปัจจุบันถ้าจะกลับไปใช้ไม้เรียว ผมมองว่าน่าจะทำได้ยากพอสมควร เพราะจะต้องมีระเบียบ และมีผู้มีความเห็นแย้งเยอะ ทั้งยังเกรงว่าครูจะใช้ไม้เรียวลงโทษอย่างรุนแรง” เลขาฯ กพฐ.กล่าว.


ที่มา:หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ Tuesday, 20 January, 2015 - 00:00



21/01/2558