การประชุมสัมมนา ผอ.สพท.ทั่วประเทศ

โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น - พลเรือเอก ณรงค์ พิพัฒนาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานเปิดการประชุมสัมมนาผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาทั่วประเทศ ครั้งที่ 5/2557 พร้อมทั้งกล่าวมอบนโยบายและทิศทางการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน โดยมีพลเอก สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ รศ.ประภาภัทร นิยม ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และพลเอก สุทัศน์ กาญจนานนท์กุล ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เข้าร่วมพิธีเปิดการประชุม เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2557

ดร.กมล รอดคล้าย เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กล่าวว่า สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) เป็นหน่วยงานที่มีภารกิจหลักในการจัดและส่งเสริมการศึกษาขั้นพื้นฐาน และเป็นองค์กรที่ให้บริการด้านการศึกษาที่มีผู้เกี่ยวข้องจำนวนมาก มีหน่วยงานให้บริการตั้งอยู่ทั่วประเทศ การประชุมสัมมนาผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) เป็นกิจกรรมสำคัญที่จะต้องจัดขึ้นอย่างต่อเนื่องและเป็นประจำ เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้บริหารระดับสูงของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาทั่วประเทศได้มารับฟังนโยบายสำคัญพร้อมกัน และเป็นโอกาสให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างผู้บริหารในส่วนกลาง และส่วนภูมิภาค ในการรับทราบถึงปัญหาและอุปสรรคต่างๆ รวมถึงวิธีการคลี่คลายปัญหาและอุปสรรคเหล่านั้น เพื่อนำไปเป็นข้อมูลในการพัฒนาการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน ส่งผลให้การปฏิบัติงานเป็นไปอย่างมีคุณภาพ และมีประสิทธิภาพตามวัตถุประสงค์ เป้าหมาย ตัวชี้วัด ตามนโยบายของรัฐบาลและนโยบายของ ศธ.ต่อไป

การประชุมสัมมนาผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาทั่วประเทศ ครั้งที่ 5/2557 มีผู้เข้าร่วมประชุมทั้งสิ้น จำนวน 350 คน เป็นผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (สพป.) ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา (สพม.) ผู้บริหารระดับสูงของ สพฐ.และผู้ที่เกี่ยวข้อง

การประชุมสัมมนาในครั้งนี้ จะเป็นโอกาสให้ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาได้เข้าใจนโยบายและสามารถนำนโยบายไปสื่อสารให้กับโรงเรียนในพื้นที่ทั่วประเทศ ให้ดำเนินการไปในทิศทางเดียวกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ สอดคล้องกับเจตนารมณ์ด้านการศึกษาของรัฐ ที่ต้องการสร้างความสมานฉันท์ให้กับสังคมไทย รวมทั้งเพิ่มศักยภาพการแข่งขันของประเทศโดยการยกระดับคุณภาพการศึกษา ปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรม วินัย จิตสำนึกของความเป็นไทย ต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชัน เพิ่มและกระจายโอกาสทางการศึกษาให้ประชาชนอย่างเท่าเทียมกันผ่านนโยบายต่างๆ ได้มากยิ่งขึ้น

มว.ศธ. กล่าวว่า ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาและมัธยมศึกษา เป็นบุคลากรที่มีความสำคัญในระบบการศึกษาของไทย และเป็นผู้ที่มีบทบาทหน้าที่หลักในการขับเคลื่อนงานพัฒนาการศึกษาขั้นพื้นฐานไปสู่การปฏิบัติให้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เกิดประสิทธิผล และบรรลุวัตถุประสงค์ในการขยายโอกาสให้ผู้เรียนสามารถเข้าถึงระบบการศึกษาที่มีคุณภาพได้อย่างเท่าเทียมและเป็นธรรม ตามที่ประชาชนทั่วไปตั้งความคาดหวังไว้

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญกับการพัฒนาการศึกษาอย่างมาก ด้วยตระหนักดีว่าการศึกษาเป็นรากฐานสำคัญทางสังคม โดยเฉพาะการผลิตและพัฒนากำลังคนให้มีคุณภาพและมีคุณธรรม ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อการพัฒนาประเทศ และเสริมสร้างศักยภาพในการแข่งขันในเวทีนานาชาติ โดยจะให้ความสำคัญกับการปฏิรูปการศึกษาให้เป็นไปตามแนวทางของสภาปฏิรูปแห่งชาติด้านการศึกษา ทั้งในเรื่องการส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดช่วงชีวิต การพัฒนาระบบการผลิตและพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษา การพัฒนาคุณภาพการศึกษา การกระจายอำนาจการบริหารจัดการในระบบการศึกษา การลดความเหลื่อมล้ำและเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงระบบการศึกษาอย่างเท่าเทียม และการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนกำลังคนตามความต้องการของตลาดแรงงานที่สามารถรองรับการก้าวเข้าสู่ประชาคมอาเซียน จะต้องมีการดำเนินการควบคู่ไปกับการปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม การเรียนรู้ด้านประวัติศาสตร์ การยึดมั่นในสถาบันหลักของชาติ และน้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ มาเป็นหลักการสำคัญในระบบการศึกษาของไทยให้ได้อย่างเป็นรูปธรรม

ผลการประเมินระดับการศึกษาของนักเรียนไทยในปัจจุบันอยู่ในภาวะที่อาจจะเรียกว่าตกต่ำ เมื่อนำไปเปรียบเทียบกับประเทศอื่นในอาเซียนและในโลก แม้ว่ารัฐบาลในอดีตจนถึงปัจจุบันให้ความสำคัญกับเรื่องการศึกษาเป็นอันดับต้น โดยดูจากการที่ ศธ.ได้รับงบประมาณมากเป็นอันดับ 2 ของโลก หากนักเรียนมีผลการศึกษาตกต่ำ ก็หมายถึงวิชาความรู้ คุณธรรม จริยธรรม ตกต่ำด้วย ทำให้ได้ประชากรที่ไม่มีคุณภาพ ส่งผลต่ออนาคตของชาติในภายภาคหน้า ดังนั้นทุกท่านจึงมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งต่ออนาคตของประเทศ

หนึ่งในนโยบายที่สำคัญของ ศธ. คือ ต้องการให้บุคลากรทางการศึกษา โดยเฉพาะผู้ที่อยู่เขตพื้นที่การศึกษา เพิ่มการจัดกิจกรรมหรือโครงการที่เกี่ยวข้องกับความปรองดองสมานฉันท์ในทุกพื้นที่ อาจจะเริ่มจากภายในสถานที่ทำงานหรือโรงเรียน แล้วจึงขยายไปสู่เขตพื้นที่การศึกษาข้างเคียงและชุมชนให้ครอบคลุมทั่วประเทศ

นอกจากนี้ ต้องการให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาทุกเขตดำเนินการในลักษณะเดียวกับศูนย์ดำรงธรรม ของกระทรวงมหาดไทย โดยเน้นให้มีบุคลากรพร้อมที่จะให้คำตอบและความกระจ่างแก่ผู้มาติดต่อ รวมทั้งให้ข้อเสนอแนะ คำชี้แจงในทุกเรื่องเกี่ยวกับการจัดการศึกษา หากไม่สามารถตอบได้ ก็ต้องให้คำแนะนำแก่ผู้มาติดต่อได้ว่าควรจะดำเนินการต่อไปอย่างไร ให้ถือเป็นนโยบายเร่งด่วนเฉพาะหน้าที่ที่ต้องการให้ดำเนินการทันที อีกทั้งต้องการให้ สพท.เป็นศูนย์กลางเชื่อมต่อระหว่างชุมชนในพื้นที่ไปสู่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ตำบล อำเภอ และจังหวัดตามลำดับ ให้โรงเรียนทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการเชื่อมประสานการดำเนินงานที่เกี่ยวข้อง นำนโยบายจากส่วนกลางสู่การปฏิบัติ ทั้งหมดนี้จะต้องเกิดขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้เกิดผลสำเร็จ หรือที่เรียกว่า “ผลงานเชิงประจักษ์”

เรื่องสำคัญอีกเรื่องหนึ่ง ที่ถือเป็นนโยบายหลักของรัฐบาล คือ การทำงานอย่างโปร่งใส ปราศจากผลประโยชน์ทับซ้อน เนื่องจากที่ผ่านมา ศธ.ถูกมองจากสังคมว่ามีการใช้งบประมาณอย่างไม่โปร่งใส จึงได้เน้นย้ำกับผู้บริหารระดับสูงของ ศธ.เรื่องการใช้จ่ายงบประมาณที่จะต้องดำเนินการให้ถูกต้องตามระเบียบ และจะไม่ยอมให้มีเรื่องทุจริตคอร์รัปชันเกิดขึ้นอย่างเด็ดขาด

ในขณะเดียวกันการดำเนินงานและการปกครองดูแลผู้ใต้บังคับบัญชา ก็ควรจะต้องยึดถือหลักธรรมาภิบาลด้วย เนื่องจากในปัจจุบันสังคมภายนอกมองว่าระบบการศึกษาไทยล้มเหลว ผู้ที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาจึงตกเป็นจำเลยของสังคม ดังนั้นขอให้เอาความกดดัน ความคาดหวัง และแรงบีบคั้นจากสังคมภายนอกมาเป็นพลังในการร่วมมือกันทำให้ผลผลิตของระบบการศึกษาดีขึ้น ผลผลิตในที่นี้ก็คือนักเรียน ต้องทำให้ผลการประเมินเป็นที่น่าพอใจ ให้นักเรียนมีความคิด มีเหตุมีผล สามารถคิดและวิเคราะห์ได้ด้วยตัวเอง มีคุณธรรม จริยธรรม มีความเป็นจิตอาสา
ประการสุดท้ายที่ต้องการจะฝากผู้บริหารในทุกระดับและผู้อำนวยการ สพป./สพม. ได้ตระหนักคือ \"การปฏิรูปการศึกษาเป็นความคาดหวังของประชาชนทั้งประเทศ\" ปัจจัยแห่งความสำเร็จของการปฏิรูปการศึกษานั้น มิได้ขึ้นอยู่กับ ศธ.แต่เพียงหน่วยงานเดียว แต่ ศธ.ต้องขับเคลื่อนเพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น โดยจะต้องรับฟังความคิดเห็นและเปิดโอกาสให้ประชาชนมีส่วนร่วมในกระบวนการทำงาน ซึ่งจะเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการสร้างความเข้าใจและยอมรับจากสังคม จึงขอให้ทุกท่านปฏิบัติงานตามบทบาทหน้าที่ความรับผิดชอบอย่างเต็มกำลังความสามารถ บนหลักคุณธรรม จรรยาวิชาชีพ และความเป็นครูบาอาจารย์ที่ควรจะต้องเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับสังคมไทย ทั้งนี้จะไม่ยอมให้มีการแสวงหาผลประโยชน์อันมิชอบ การทุจริตคอร์รัปชัน การปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ การละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ การปฏิบัติหน้าที่ด้วยความไม่เป็นธรรม และไม่เป็นไปตามกฎระเบียบข้อบังคับที่ได้กำหนดไว้โดยเด็ดขาด หวังว่าทุกท่านจะให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี

โอกาสนี้ รมว.ศธ.กล่าวอวยพรให้การประชุมสัมมนาในครั้งนี้บรรลุวัตถุประสงค์ตามที่กำหนดไว้ทุกประการ ซึ่งจะช่วยให้ผู้อำนวยการ สพท.ทุกท่านมีความเข้าใจในทิศทางการทำงาน สามารถถ่ายทอดให้กับเพื่อนร่วมงานในพื้นที่ได้อย่างถูกต้อง เพื่อให้การขับเคลื่อนการพัฒนาระบบการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ เกิดประสิทธิผล และสอดคล้องกับเจตนารมณ์ของรัฐบาล รวมทั้งตอบสนองต่อความคาดหวังของประชาชนในสังคม.

ขอบคุณที่มาภาพและเนื้อหาจาก ข่าวสำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงศึกษาธิการ

สรุป/รายงาน โดย กุณฑิกา พัชรชานนท์, บัลลังก์ โรหิตเสถียร



20/10/2557