จวกข้อสอบโอเน็ตท่องจำทำปฏิรูปไม่สำเร็จ

ผู้ช่วย รมต.ศธ.จวกการสอบโอเน็ตทำให้การวัดผลและการเรียนการสอนเป็นแบบท่องจำ และมี 4 ปัจจัยที่ทำให้การปฏิรูปการศึกษาที่ผ่านมาล้มเหลว มี รร.เพียง 10% เท่านั้นที่ปฏิรูปสำเร็จ


นายอนุสรณ์ ฟูเจริญ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงศึกษาธิการ (ผู้ช่วย รมต.ประจำ ศธ.) กล่าวปาฐกถาเรื่อง \"การปฏิรูปการเรียนรู้ในระบบการศึกษาขั้นพื้นฐานของประเทศ\" ในเวทีการศึกษากับการเปลี่ยนแปลงประเทศไทย ระบบโรงเรียนปฏิรูปการเรียนรู้ ตอนหนึ่ง ว่า การปฏิรูปการศึกษา 2 รอบที่ผ่านมา ตนคิดว่าไม่ใช่การปฏิรูปการศึกษาที่แท้จริง ซึ่งมีโรงเรียน 10% เท่านั้นที่ปฏิรูปสำเร็จ แต่อีก 90% ปฏิรูปไม่สำเร็จ เพราะไม่เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ห้องเรียนและนักเรียนเลย ทั้งนี้ ปัจจัยที่ทำให้การปฏิรูปไม่ประสบความสำเร็จมี 4 ประเด็นหลักคือ 1.โรงเรียนมีจำนวนมากและมีความหลากหลาย ดังนั้นการปฏิรูปการศึกษาโดยกำหนดเพียงโมเดลเดียว จึงไม่มีทางที่จะปฏิรูปสำเร็จ อีกทั้งปัจจุบันยังมีโรงเรียนที่ขาดครูเกือบ 60% ของโรงเรียนทั้งหมด จึงไม่ต้องถามถึงเรื่องคุณภาพ ขณะนี้ ศธ.จึงต้องแก้ปัญหาด้วยการใช้การเรียนทางไกลผ่านดาวเทียม เพื่อให้นักเรียนได้เรียนเต็มเวลา และครบทุกวิชาตามหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน

นายอนุสรณ์กล่าวต่อว่า 2.ไม่มีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างพื้นฐานของการศึกษาเลย ห้องเรียนเมื่อ 50 ปีที่แล้วเป็นอย่างไร ปัจจุบันก็ยังเป็นแบบนั้น รัฐมองข้ามและไม่เคยลงทุนในเรื่องเหล่านี้ ทำให้บรรยากาศในห้องเรียนไม่เอื้ออำนวยต่อการเรียนรู้ ไม่มีแหล่งเรียนรู้ และมุมหนังสือดีๆ ให้เด็ก หากเป็นเช่นนี้จะให้เด็กแสวงหาความรู้ด้วยตนเองได้อย่างไร 3.ใช้งบประมาณไปจำนวนมากกับการอบรมครู แต่ก็ไม่ได้ช่วยทำให้ครูปรับวิธีการเรียนการสอน จึงทำให้การปฏิรูปไม่สำเร็จ และ 4.การวัดและประเมินผล ซึ่งทุกวันนี้เรายังให้ความสำคัญกับการสอบแบบทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน หรือโอเน็ต มากเกินไป ทั้งที่โอเน็ตเป็นการสอบวัดความรู้ที่เน้นความจำ จึงเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ครูยังสอนเด็กแบบท่องจำ ดังนั้นหากมีการปรับรูปแบบการวัดและประเมินผล เชื่อว่ากระบวนการสอนของครูก็จะเปลี่ยนตามไปด้วย.


ที่มา:ไทยโพสต์ Tuesday, November 10, 2015 - 00:00



10/11/2558