"ณรงค์" ชี้ยังไม่ได้รับข้อมูลการใช้เงิน ช.พ.ค. 2,100 ล้านบาทเพิ่มเติม

วันนี้ (9 เม.ย.) พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย รมว.ศึกษาธิการ กล่าวถึงกรณีที่สำนักงานส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) นำเงินโครงการฌาปนกิจสงเคราะห์ช่วยเพื่อนครูและบุคลากรทางการศึกษา (ช.พ.ค.) 2,100 ล้านบาทไปลงทุนผิดวัตถุประสงค์ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงานในเรื่องดังกล่าวเพิ่มเติม ซึ่งเท่าที่ฟัง ดร.สุทธศรี วงษ์สมาน ปลัด ศธ. รายงาน เข้าใจว่าขณะนี้สำนักนิติการของสำนักงานปลัดศธ. อยู่ระหว่างดำเนินการสืบหาข้อเท็จจริง คาดว่าหลังจากช่วงหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์ น่าจะทราบความคืบหน้า และคิดว่าควรจะต้องเรียกผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดมาพูดคุย โดยตนยังไม่มีโอกาสพูดคุยกับ พล.อ.สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ รมช.ศึกษาธิการ ในฐานะกำกับดูแล สกสค. แต่คิดว่าน่าจะมีการพูดคุยถึงแนวทางแก้ปัญหาดังกล่าวร่วมกัน เพราะเรื่องนี้ถือเป็นประเด็นสำคัญที่ต้องเร่งแก้ไข

ดร.สุทธศรี กล่าวว่า ทางสำนักนิติการ ยังไม่ได้รายงานข้อมูลเข้ามา คิดว่าอยู่ระหว่างการรวบรวมรายละเอียด อีกทั้งยังไม่ครบกำหนด 15 วันที่รมช.ศึกษาธิการ กำหนดกรอบเวลาไว้ คาดว่าหลังสงกรานต์น่าจะมีความคืบหน้า

ด้าน พ.อ.ดำรงค์ สิมะขจรบุญ ผู้ช่วยเลขานุการ รมว.ศึกษาธิการ กล่าวว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ มณฑลทหารบกที่ 22 และเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.อ.เมือง จ.อุบลราชธานี ได้รับแจ้งความร้องทุกข์จากผู้จัดการห้างหุ้นส่วนจำกัด(หจก.)วัชรินทร์ธุรกิจกรุ๊ป อ.เมือง จ.ศรีสระเกษ ว่ามีข้าราชการครู ตําแหน่งครูวิทยฐานะครูชํานาญการพิเศษ ใส่ชุดทหารยศพันเอก ใช้ชื่อ พ.อ.ดำรงค์ แอบอ้างว่าเป็นตนเอง และบอกว่าสามารถช่วยเหลือในการจัดซื้อจัดจ้างครุภัณฑ์ของโรงเรียนต่าง ๆ ทั่วประเทศได้ ทำให้บริษัทเอกชนรายดังกล่าวหลงเชื่อ และจ่ายเงินเป็นค่าดำเนินการให้ 1,850,000 บาท ซึ่งเบื้องต้นครูรายดังกล่าว ยอมรับว่า ทำผิดจริงและอยู่ระหว่างดำเนินคดีตามกฎหมาย ทั้งนี้ในส่วนของตนเองได้แจ้งไปยังสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) และสำนักงานเลขาธิการคุรุสภา ให้ดำเนินการทางวินัยอย่างร้ายแรงกับครูคนดังกล่าว รวมถึงขอให้เพิกถอนใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูเพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างต่อไปแล้ว

\"ที่ผ่านมาได้ยินมาว่ามีผู้นำชื่อของผมไปแอบอ้าง เพื่อเรียกรับเงินเรื่องต่าง ๆ จำนวนมากทั้งอ้างว่าสามารถช่วยโยกย้ายครูได้ ช่วยเหลือในเรื่องการจัดซื้อจัดจ้างครุภัณฑ์ในโรงเรียนได้ ถึงขั้นอ้างว่าจะเข้าไปตรวจสอบสัญญาจัดตั้งร้านค้าในโรงเรียนด้วย ซึ่งทั้งหมดนี้ยืนยันว่า ผมไม่เคยเข้าไปเกี่ยวข้อง และกำลังตรวจสอบทุกกรณี และต่อไปหากมีใครนำชื่อผมไปแอบอ้างในการแสวงหาผลประโยชน์ขอให้แจ้งข้อมูลมาได้ที่ ศธ. โดยผมจะดำเนินการให้ถึงที่สุด เพราะเป็นเรื่องที่ทำให้ผม และศธ.เสื่อมเสีย ทั้งนี้ รมว.ศึกษาธิการ เน้นย้ำมาตลอดว่าการใช้งบประมาณของศธ. ต้องเป็นไปอย่างคุ้มค่า สุจริต เที่ยงตรง ตรวจสอบได้ “ ผู้ช่วยเลขานุการรมว.ศึกษาธิการ กล่าวและว่า เชื่อว่าผู้ที่ถูกแอบอ้างชื่อเพื่อนำไปแสวงหาผลประโยชน์คงไม่ได้มีตนคนเดียว แต่ทีมงานรมว.ศึกษาธิการ และรมช.ศึกษาธิการ คนอื่น ๆ ก็น่าจะถูกแอบอ้างด้วยเช่นกัน.


ที่มา : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ วันพฤหัสบดี 9 เมษายน 2558 เวลา 18:11 น.



10/04/2558