บังคับใช้เดือนนี้! กม.เปิดช่องชาวบ้าน"ฟ้องวินัย-แพ่ง"ขรก.ขี้เกียจ

เมื่อวันที่ 22 มกราคม 2558 ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๓๒ ตอนที่ ๔ ก ได้มีการประกาศเกี่ยวกับกฎหมายว่าด้วยการอํานวยความสะดวกในการพิจารณาอนุญาตของทางราชการ พ.ศ.2558 โดยมีวัตถุประสงค์สำคัญเพื่ออำนวยความสะดวกในธุรกรรมใดๆ ที่ประชาชนจะต้องขออนุญาตจากทางราชการ ขจัดความล่าช้า ลดความสิ้นเปลือง และทำให้เรียบง่ายขึ้น ทั้งนี้ พ.ร.บ.ดังกล่าวนั้นใช้บังคับเมื่อพ้นกําหนด 180 วัน นับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป


โดยมาตราสำคัญ คือ

มาตรา 8 ให้เป็นหน้าที่ของพนักงานเจ้าหน้าที่ผู้มีหน้าที่ในการรับคําขอจะต้องตรวจสอบคําขอ และรายการเอกสารหรือหลักฐานที่ยื่นพร้อมคําขอให้ถูกต้องครบถ้วน หากเห็นว่าคําขอไม่ถูกต้องหรือ ยังขาดเอกสารหรือหลักฐานใดให้แจ้งให้ผู้ยื่นคําขอทราบทันที ถ้าเป็นกรณีที่สามารถแก้ไขหรือเพิ่มเติมได้ในขณะนั้น ให้แจ้งให้ผู้ยื่นคําขอดําเนินการแก้ไขหรือยื่นเอกสารหรือหลักฐานเพิ่มเติมให้ครบถ้วน



ถ้าเป็นกรณีที่ไม่อาจดําเนินการได้ในขณะนั้นให้บันทึกความบกพร่องและรายการเอกสารหรือหลักฐานที่จะต้องยื่นเพิ่มเติมพร้อมทั้งกําหนดระยะเวลาที่ผู้ยื่นคําขอจะต้องดําเนินการแก้ไขหรือยื่นเพิ่มเติมไว้ในบันทึกดังกล่าวด้วยและให้พนักงานเจ้าหน้าที่และผู้ยื่นคําขอลงนามไว้ในบันทึกนั้น ให้พนักงานเจ้าหน้าที่มอบสําเนาบันทึกตามวรรคหนึ่งให้ผู้ยื่นคําขอไว้เป็นหลักฐาน



ในกรณีที่ผู้ยื่นคําขอได้จัดทําคําขอถูกต้องและแนบเอกสารหรือหลักฐานครบถ้วนตามที่ระบุ ในคู่มือสําหรับประชาชนตามมาตรา 7 แล้ว หรือได้แก้ไขหรือยื่นเอกสารหรือหลักฐานเพิ่มเติมครบถ้วน ตามที่พนักงานเจ้าหน้าที่แนะนําหรือตามที่ปรากฏในบันทึกตามวรรคหนึ่งแล้ว พนักงานเจ้าหน้าที่จะเรียก เอกสารหรือหลักฐานเพิ่มเติมอื่นใดอีกไม่ได้ และจะปฏิเสธการพิจารณาคําขอนั้นโดยอาศัยเหตุแห่ง ความไม่สมบูรณ์ของคําขอหรือความไม่ครบถ้วนของเอกสารหรือหลักฐานไม่ได้ เว้นแต่เป็นกรณีที่ความไม่สมบูรณ์ หรือความไม่ครบถ้วนนั้นเกิดจากความประมาทเลินเล่อหรือทุจริตของพนักงานเจ้าหน้าที่ และเป็นผลให้ไม่อาจอนุญาตได้ ในกรณีนี้ให้ผู้อนุญาตสั่งการตามที่เห็นสมควร และให้ดําเนินการทางวินัยหรือดําเนินคดีกับพนักงาน เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องโดยไม่ชักช้า



มาตรา 10 ผู้อนุญาตต้องดําเนินการให้แล้วเสร็จภายในกําหนดเวลาที่ระบุไว้ในคู่มือ สําหรับประชาชนตามมาตรา 7 และแจ้งให้ผู้ยื่นคําขอทราบภายใน 7 วัน นับแต่วันที่พิจารณาแล้วเสร็จ เมื่อครบกําหนดเวลาตามที่ระบุไว้ในคู่มือสําหรับประชาชนตามมาตรา 7 แล้ว หากผู้อนุญาต ยังพิจารณาไม่แล้วเสร็จ ให้แจ้งเป็นหนังสือให้ผู้ยื่นคําขอทราบถึงเหตุแห่งความล่าช้าทุกเจ็ดวันจนกว่า จะพิจารณาแล้วเสร็จ พร้อมทั้งส่งสําเนาการแจ้งดังกล่าวให้คณะกรรมการพัฒนาระบบราชการทราบทุกครั้ง

ในกรณีที่คณะกรรมการพัฒนาระบบราชการเห็นว่าความล่าช้านั้นเกินสมควรแก่เหตุหรือเกิดจาก การขาดประสิทธิภาพในการปฏิบัติราชการของหน่วยงานของผู้อนุญาต ให้คณะกรรมการพัฒนาระบบ ราชการรายงานต่อคณะรัฐมนตรีพร้อมทั้งเสนอแนะให้มีการพัฒนาหรือปรับปรุงหน่วยงานหรือระบบการปฏิบัติ ราชการของหน่วยงานนั้น ในกรณีไม่แจ้งตามวรรคหนึ่งหรือวรรคสอง ให้ถือว่าผู้อนุญาตกระทําการหรือละเว้นกระทําการ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น เว้นแต่จะเป็นเพราะมีเหตุสุดวิสัย




อ่านพ.ร.บ.ฉบับเต็ม คลิกhttp://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2558/A/004/1.PDF


หมายเหตุ: ในพระราชบัญญัตินี้ “เจ้าหน้าที่” หมายความว่า เจ้าหน้าที่ตามกฎหมายว่าด้วยวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง

“อนุญาต” หมายความว่า การที่เจ้าหน้าที่ยินยอมให้บุคคลใดกระทําการใดที่มีกฎหมายกําหนดให้ ต้องได้รับความยินยอมก่อนกระทําการนั้น และให้หมายความรวมถึงการออกใบอนุญาต การอนุมัติ การจดทะเบียน การขึ้นทะเบียน การรับแจ้ง การให้ประทานบัตรและการให้อาชญาบัตรด้วย

“ผู้อนุญาต”หมายความว่า ผู้ซึ่งกฎหมายกําหนดให้มีอํานาจในการอนุญาต

“พนักงานเจ้าหน้าที่” หมายความว่า พนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมายว่าด้วยการอนุญาต

“กฎหมายว่าด้วยการอนุญาต” หมายความว่า บรรดากฎหมายที่มีบทบัญญัติกําหนดให้ การดําเนินการใดหรือการประกอบกิจการใดจะต้องได้รับอนุญาตก่อนจึงจะดําเนินการได้

“คําขอ” หมายความว่า คําขออนุญาต



ที่มา:มติชนออนไลน์ วันที่ 06 กรกฎาคม พ.ศ. 2558 เวลา 18:18:10 น.



06/07/2558