รพ.ขุขันธ์ตรวจพบ แอบใส่ยาแก้ปวด อาหารเสริมสมุนไพร

เภสัชกร รพ.ขุขันธ์ จ.ศรีสะเกษ เผยพบกระบวนการแอบผสมยาแก้ปวดแผนปัจจุบันในยาโบราณ ยาสุมนไพร กินมากกัดกระเพาะอาหาร เป็นอันตรายต่อตับ-ไต ชี้น่ากลัวกล่าว “สเตียรอยด์” เหตุไม่แสดงอาการผิดปกติภายนอก ด้าน อย.ระบุเข้าข่ายผลิตยาปลอม มีโทษจำคุก 1-ตลอดชีวิต ส่วนผู้ขายมีโทษจำคุก 1-20 ปี
ภก.เด่นชัย ดองพอง จากโรงพยาบาลขุขันธ์ จ.ศรีสะเกษ เปิดเผยว่า ภายหลังจากการตรวจพบผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสเตียรอยด์ จนทำให้มีการเฝ้าระวังและปราบปรามอย่างเข้มงวดนั้น ขณะนี้พบว่ามีผู้ประกอบการแอบหันมาใช้ยาแก้ปวดแผนปัจจุบันกลุ่ม (NSAID) ซึ่งเป็นกลุ่มยาแก้ปวด ยาลดไข้ และยาต้านการอักเสบที่ไม่ได้เกิดจากการติดเชื้อ ที่มีข้อบ่งใช้ว่าห้ามนำผสมในผลิตภัณฑ์เสริมอาหารแก้ปวด หรือผสมสมุนไพร หากรับประทานเข้าไปเป็นระยะเวลานานจะเกิดอันตรายกับไต กัดกระเพาะอาหาร โดยเฉพาะผู้สูงอายุจะได้รับผลกระทบต่อสุขภาพมาก ดังนั้นเราต้องระวังเพิ่มเติมในกลุ่มนี้ด้วย แต่ปัญหาคือ ปัญหาจากการใช้ยาดังกล่าวไม่ได้แสดงอาการให้เห็นภายนอกเหมือนกับการรับประทานยาผสมสเตียรอยด์ ที่จะเห็นได้ชัดเจนว่าหน้าบวม ไตวายเฉียบพลัน เพราะฉะนั้นยาที่ผสมเข้าไปตัวใหม่นั้นจะน่ากลัวมาก
ด้าน ภก.ประพนธ์ อางตระกูล รองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กล่าวว่า เอ็นเสดเป็นกลุ่มยาแก้ปวด ลดไข้ ยาต้านการอักเสบที่ไม่ได้เกิดจากการติดเชื้อ แต่มีผลข้างเคียงทำให้เกิดระคายเคืองและเกิดแผลในกระเพาะอาหาร หากรับประทานมากๆ และรับประทานเป็นระยะเวลานานจะเกิดผลเสียต่อการทำงานของตับและไต ดังนั้นยาดังกล่าวจึงถือเป็นยาต้องขายโดยเภสัชกรเท่านั้น และยาบางตัวในกลุ่มนี้จะอนุญาตให้ขายเฉพาะกรณีที่มีใบสั่งแพทย์เท่านั้น สำหรับกรณีที่มีการเอาไปผสมในยาแผนโบราณหรือยาสมุนไพรนั้นถือเป็นความผิด เป็นการปลอมปนเอายาแผนปัจจุบันใส่ลงไป ทำให้ประชาชนเกิดความเข้าใจผิด ว่าที่หายจากอาการปวดเป็นผลมาจากฤทธิ์ของยาสมุนไพรซึ่งไม่ใช่ และที่สำคัญหากรับประทานเข้าไปโดยไม่ทราบจะส่งผลกระทบต่อสุขภาพตามที่กล่าวข้างต้น ดังนั้นผู้กระทำการดังกล่าวหากเป็นผู้ผลิตจะมีโทษฐานหลอกลวงผู้บริโภค และที่ผ่านมาเคยมีคำพิพากษาของศาลถือว่าเป็นการผลิตยาปลอม และกฎหมายได้บัญญัติโทษจำคุก 3 ถึงตลอดชีวิต ส่วนผู้ขายมีโทษ จำคุก 1-20 ปี.


ขอบคุณ:หนังสือพิมพ์ ไทยโพสต์



29/07/2557