ศธ.เร่งช่วยเด็กจนเกรดไม่ถึง2.00ได้กู้กยศ.

ปลัด ศธ.เร่งหาทางช่วยเหลือเด็กยากจน ผลการเรียนเกรดเฉลี่ยไม่ถึง 2.00 ที่ได้รับผลกระทบจากการปรับเกณฑ์กู้ของ กยศ. มีโอกาสได้กู้เงินเรียน กรณีถ้าไปศึกษาต่ออาชีวะ เตรียมหารือบอร์ด กยศ.อีกครั้ง และให้สถานศึกษาช่วยหาทุนส่งเสริมด้วยอีกทาง
นางสุทธศรี วงศ์สมาน ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ปลัด ศธ.) กล่าวถึงกรณีที่ทางกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ได้ปรับหลักเกณฑ์คัดกรองผู้กู้ยืมเงิน กยศ. โดยกำหนดให้ผู้ยื่นกู้ในระดับมัธยมศึกษาตอนปลายจะต้องมีผลการเรียนเฉลี่ยสะสมระดับมัธยมศึกษาตอนต้นไม่น้อยกว่า 2.00 ส่วนระดับอนุปริญญาตรีและปริญญาตรีต้องมีผลการเรียนเฉลี่ยสะสมระดับมัธยมศึกษาตอนปลายไม่น้อยกว่า 2.00 เช่นกัน ว่า ในการประชุมคณะกรรมการบริหาร กยศ.ได้มีการแสดงความเห็นกันหลากหลาย ซึ่งมีทั้งที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย แต่ กยศ.ได้ย้ำถึงจุดประสงค์หลักตามความต้องการของรัฐบาลชุดนี้ว่า การกู้นั้นจะต้องให้ผู้เรียนกู้ยาก จ่ายคืนง่าย และผู้เรียนสามารถเรียนได้จนจบหลักสูตร
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากมติดังกล่าวไม่ได้มีการแจ้งให้ผู้ที่กู้ทราบล่วงหน้า
เด็กส่วนใหญ่จึงยังไม่ทราบเกณฑ์ใหม่อย่างทั่วถึง แต่เมื่อมีการประชาสัมพันธ์มากขึ้นและเด็กเริ่มรับรู้มากขึ้น จึงทำให้เด็กที่อยู่ในเกณฑ์ครอบครัวยากจน แต่เกรดเฉลี่ยไม่ถึง 2.00 ได้รับผลกระทบเป็นจำนวนมาก ซึ่งก็เป็นเรื่องที่ทางที่ประชุมจะต้องหามาตรการสำหรับการดูแลช่วยเหลือเด็กเหล่านี้ เพื่อให้เด็กกลุ่มนี้ได้รับยกเว้นในกรณีผู้ยื่นกู้ศึกษาต่อในสายอาชีวศึกษาจะไม่มีการกำหนดเงื่อนไข เพราะต้องการส่งเสริมให้มีการเรียนสายอาชีพมากขึ้น
นางสุทธศรีกล่าวต่อว่า ขณะนี้ยังไม่ทราบจำนวนผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการปรับเกณฑ์ดังกล่าวอย่างแน่ชัด ซึ่งตนในฐานะประธานอนุกรรมการบัญชีจ่ายที่หนึ่ง กยศ.จะให้ทีมที่ดูแลบัญชีจ่ายที่หนึ่ง ช่วยติดตามประเด็นปัญหา
รวมถึงให้ไปดูว่าจำนวนผู้กู้ที่ผ่านมามีเด็กที่ได้เกรดเฉลี่ยไม่ถึง 2.00
จำนวนมากน้อยแค่ไหน เพื่อจะได้รวบรวมนำหารือในบอร์ด กยศ.
\"อย่างไรก็ตาม แต่เมื่อมีมติออกมาเช่นนี้ก็ต้องปฏิบัติตามมติของคณะกรรมการบริหาร กยศ.ไปก่อน ขณะเดียวกันก็คงต้องมาดูว่าจะสามารถช่วยเหลือเด็กที่ได้รับผลกระทบอย่างไร เพราะคงต้องมีเด็กที่ยากจนที่อยากเรียนและต้องกู้ยืมเงิน แต่ผลการเรียนไม่ถึงเกณฑ์ที่จะได้รับความเดือดร้อน แต่ก็ต้องยอมรับว่าที่ผ่านมาคนที่ยื่นกู้ยืมก็ไม่ได้หมายความจะได้รับอนุมัติให้กู้ทุกคนถึงแม้จะมีผลการเรียนผ่านเกณฑ์ เพราะเงินกองทุนมีจำนวนจำกัด อีกทั้งต้องพิจารณาคุณสมบัติอื่นด้วย ทั้งนี้ ทางสถานศึกษาเองก็ต้องมีมาตรการที่จะดูแลเด็กด้วย เช่น การจัดหาทุนไว้รองรับ เป็นต้น\".


ที่มา:หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ Monday, 9 February, 2015 - 00:00



09/02/2558