สพฐ.สั่ง รร.ปรับสอนอ่านแจกลูกสะกดคำ

สพฐ.สนองพระราชดำรัสสมเด็จพระเทพฯ แก้ปัญหาอ่านไม่ออกเขียนไม่ได้
เมื่อวันที่ 22 ม.ค.58 นายกมล รอดคล้าย เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) กล่าวถึงกรณีที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงมีรับสั่งให้กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ไปพิจารณาหาวิธีการสอนแบบแจกลูกสะกดคำ ซึ่งเป็นพื้นฐานที่เป็นประโยชน์เพราะทำให้เด็กอ่านออกเขียนได้ โดยพระองค์ท่านรับสั่งว่าเคยเรียนด้วยวิธีนี้ แต่ ศธ.ไปยกเลิกทำให้เด็กสะกดคำไม่เป็น ว่า
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) พร้อมรับสนองพระราชดำรัส ทั้งนี้ โดยกระบวนการ สพฐ.ทราบว่าเด็กมีปัญหาอ่านไม่ออก เขียนไม่ได้ จากการสำรวจตัวเลขล่าสุดอยู่ที่ 26,000 คน แบ่งเป็น 2 กลุ่มคือ กลุ่มที่ไม่พร้อมในการเรียน อาทิ เด็กต่างด้าวที่ย้ายเข้ามาอยู่ในประเทศไทย เด็กชนเผ่าต่างๆ รวมถึงเด็กที่มีปัญหาความยากจน กลุ่มที่ 2 เป็นเพราะโรงเรียนเปลี่ยนรูปแบบการสอน จากเดิมที่สอนแบบแจกลูกสะกดคำ มาเป็นสอนอ่านเป็นคำๆ เช่นเดียวกันการสอนภาษาต่างประเทศ เช่น ภาษาอังกฤษ ภาษาจีน ภาษาเกาหลี เป็นต้น ทำให้เด็กไม่สามารถผสมคำที่แตกต่างออกไปได้ จนเกิดปัญหาเด็กอ่านไม่ออกเขียนไม่ได้
เลขาธิการ กพฐ. กล่าวไปต่อว่า ที่ผ่านมา สพฐ.ได้ดำเนินการแก้ไขไปแล้วระดับหนึ่ง โดยได้จัดพิมพ์แบบเรียนเร็วใหม่ ตอนต้น ตอนกลาง และตอนปลาย ของหลวงดรุณกิจวิทูร และนายฉันท์ ขำวิไล ที่ใช้สอนในระดับชั้น ป.1-3 หนังสือเรียนวิชาภาษาไทย ชุดมานะ มานี มานะ ปิติ ชูใจ รวมถึงจัดพิมพ์คู่มือการดำเนินงานอ่านออกเขียนได้ อ่านคล่องเขียนคล่องและสื่อสารได้แจกโรงเรียนทั้งประเทศไปแล้ว รวมทั้งประกาศเป็นนโยบายการให้ทุกโรงเรียนปรับรูปแบบการสอน มาเป็นการสอนแบบแจกลูกสะกดคำทั้งหมด ขณะเดียวกันส่งเสริมให้ครูคิดนวัตกรรมการสอนแบบแจกลูกสะกดคำใหม่ๆ ขึ้นมาปรับประยุคใช้กับการเรียนการสอนอีกทางหนึ่งด้วย
\"ข้อดีของการเรียนแบบแจกลูกสะกดคำ จะทำให้เด็กสามารถผสมคำได้หลากหลาย เพราะภาษาไทยมีรูปแบบการเรียนที่แตกต่างจากประเทศอื่นๆ มีทั้งคำสมาสและคำสนธิ ที่เปลี่ยนรูปคำความหมายก็จะเปลี่ยนไปด้วย อาทิ คำว่า มติครูหากเปลี่ยนจากเป็นมติประชา ความหมายก็จะเปลี่ยน จึงจำเป็นต้องเรียนแบบสะกด ขณะเดียวกันจากการที่ได้ตามเสด็จฯ สมเด็จพระเทพฯ ไปเยี่ยมโรงเรียน ซึ่งได้มีการนำนวัตกรรมการสอนแบบแจกลูกสะกดคำมานำเสนอต่อหน้าพระพักตร์ ได้อย่างน่าสนใจ ดังนั้น สพฐ.จะรวบรวมนวัตกรรมเหล่านี้ และนำผลงานที่โดดเด่นในด้านการสอนมาพัฒนาเป็นสื่อการเรียนการสอนต้นแบบให้โรงเรียนต่าง ๆ ต่อไป\" นายกมล กล่าว

ที่มา:หนังสือพิมพ์สยามรัฐ Thu, 22/01/2015 - 15:50



23/01/2558