ส่อออกมาตรการโยกผอ.เขตทุก4ปี บอร์ดก.ค.ศ.เสนอหวังลดอิทธิพลในพื้นที่

ส่อออกมาตรการโยกผอ.เขตทุก4ปี บอร์ดก.ค.ศ.เสนอหวังลดอิทธิพลในพื้นที่สพฐ.มีแนวโน้มเห็นด้วย


\"กมล\" แจงเหตุโยก ผอ.สพม.เขต 2 และเขต 6 เพราะมีปัญหาบริหารงานภายใน แถมแก้ปัญหาไม่ได้ ไม่สนองงาน สพฐ.เท่าที่ควร ขณะที่ บอร์ด ก.ค.ศ.เสนอโยก ผอ.เขตฯ ที่อยู่เกิน 4 ปี หวังลดปัญหาอิทธิพลในพื้นที่ สพฐ.ส่งสัญญาณเห็นด้วย

นายกมล รอดคล้าย เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาฯ กพฐ.) กล่าวว่า ตามที่ที่ประชุมคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) เห็นชอบโยกย้ายผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (ผอ.สพท.) ตามที่สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) เสนอ 4 ราย คือ นายสัจจา ศรีเจริญ ผอ.สพม. 2 กทม. เป็น ผอ.สพม.เขต 13 (ตรัง-กระบี่) นายไพรัช แสงทอง ผอ.สพม.เขต 13 เป็น ผอ.สพม.เขต 2 กทม. นายยงยุทธ ทรัพย์เจริญ ผอ.สพม.เขต 6 เป็น ผอ.สพม.เขต 3 (นนทบุรี-อยุธยา) และนายนพพร พิพิธจันทร์ ผอ.สพม.เขต 3 เป็น ผอ.สพม.เขต 6 (ฉะเชิงเทรา-สมุทรปราการ) นั้น ทางสำนังานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ยืนยันว่าเป็นการย้ายเพื่อความเหมาะสมในการทำงาน ไม่ได้เป็นการลงโทษตัวบุคคล

โดยจะเห็นได้ว่าที่ผ่านมาทั้ง สพม.เขต 2 กทม.และ สพม.เขต 6 เป็นสองเขตที่มีปัญหาเรื่องระบบการบริหารงานภายใน และไม่สามารถแก้ปัญหาได้ ดังนั้นจึงต้องให้คนที่มีความสามารถเหมาะสมเข้ามาแก้ปัญหาแทนโดยเฉพาะในส่วน สพม.เขต 2 กทม. ซึ่ง สพฐ.ตั้งเป้าจะพัฒนาโรงเรียนที่อยู่ในสังกัดให้เป็นโรงเรียนต้นแบบที่มีโรงเรียนเครือข่ายและโรงเรียนคู่ขนาน และจากการทำงานที่ผ่านมาก็เห็นได้ชัดเจนว่า นายสัจจาสนองงานเรื่องนี้ได้ไม่ดีนัก อาจเพราะไม่ได้ให้ความใส่ใจเท่าที่ควร ดังนั้นจึงต้องหาคนเก่งเข้ามาทำงานพัฒนาสิ่งเหล่าแทน อีกทั้งนายสัจจาเองก็เป็นคน จ.สงขลา การย้ายให้ไปอยู่ในพื้นที่ จ.ตรัง-กระบี่ ก็ถือว่าได้กลับไปอยู่ในพื้นที่ใกล้ภูมิลำเนา และอีกประมาณ 5 เดือน นายสัจจาก็จะเกษียณอายุราชการ

เลขาฯ สพฐ.กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีของนายยงยุทธ ผอ.สพม.เขต 6 ฉะเชิงเทรา-สมุทรปราการนั้น มีปัญหามากในเรื่องของการแต่งตั้งผู้อำนวยการโรงเรียนประจำจังหวัด และไม่สามารถแก้ปัญหาได้ ซึ่งนักบริหารที่ดีจะสามารถดำเนินการได้ เพราะมีหลักเกณฑ์และแนวทางปฏิบัติประกอบการพิจารณาอยู่แล้ว แต่จนถึงขณะนี้นายยงยุทธก็ยังไม่สามารถแต่งตั้งผู้บริหารโรงเรียนได้ ทั้งที่ผ่านมาถึง 5 เดือนแล้ว และการที่สลับให้นายนพพรไปอยู่ สพม.เขต 6 แทน เพื่อให้ไปช่วยแก้ปัญหา เพราะเขต 3 วางระบบไว้ค่อนข้างดีแล้ว ส่วนปัญหาร้องเรียนของทั้งสองคนนั้นก็มีบ้าง แต่ก็ถือว่าเป็นเรื่องทั่วไปไม่ได้มีปัญหาร้ายแรง โดยทั้งสองคนทราบล่วงหน้าว่าอาจจะต้องถูกขยับ

สำหรับเขตพื้นที่ฯ อื่นนั้น ขณะนี้ยังไม่มี ยกเว้นหลังจากเปิดเทอมไปแล้ว เพราะ สพฐ.จะมีนโยบายและยุทธศาสตร์ใหม่ๆ ลงไปให้ดำเนินการ ถ้าเขตไหนทำไม่ได้และไม่ถนัดก็อาจจะมีการสลับให้อีกรอบ นอกจากนั้นในการประชุม ก.ค.ศ. เมื่อเร็วๆนี้ ก็คณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเสนอในที่ประชุมว่า ผอ.เขตพื้นที่ฯ ที่อยู่เกิน 4 ปี ควรจะต้องมีการย้ายสลับเขต

\"เรื่องย้ายสลับเขตยังไม่มีการพูดคุยกันในรายละเอียด ซึ่งต่อไปหาก ก.ค.ศ.พิจารณาแล้วให้ความเห็นชอบ ก็จะทำให้ช่วงเดือนตุลาคมนี้อาจจะต้องมีการโยกย้าย ผอ.เขตพื้นที่ฯ จำนวนมาก อย่างน้อยไม่ต่ำกว่า 30-40 เขตพื้นที่ฯ ซึ่งส่วนตัวผมเห็นด้วยกับข้อเสนอดังกล่าว เพราะโดยหลักการ ผู้บริหารไม่ควรอยู่ที่เดียวนานๆ เพื่อไม่ให้เป็นการสร้างอิทธิพลในพื้นที่ และถ้าคนใดไม่มีความสามารถในเรื่องบริหารงานก็จะอยู่อย่างเรื่อยเปื่อย ทำให้ไม่เกิดการพัฒนา\" เลขาฯ กพฐ.กล่าว.



ที่มา:หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ May 04, 2015



04/05/2558