เรียกด่วน"สมมาตร"เคลียร์ข้อกล่าวหาภตช.

\"สุทธศรี\" เรียกประชุมบอร์ด สกสค.วาระเร่งด่วนพิเศษกรณี ภตช.ร้องเรียนให้เรียบร้อยภายในสัปดาห์นี้ สั่ง \"สมมาตร\" หอบเอกสารเคลียร์ตัวเองให้ได้ พร้อมรายงานตรงให้ คสช.รับทราบ
นางสุทธศรี วงษ์สมาน ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยว่า ตามที่ภาคีเครือข่ายต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชันของชาติ (ภตช.) ร้องเรียนเกี่ยวกับการจัดพิมพ์ตำราเรียนขององค์การค้า สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) ว่ายังส่งหนังสือเรียนปีการศึกษา 2557 ให้นักเรียนไม่ถึง 50% รวมถึงขอให้ดำเนินการทางวินัยกับนายสมมาตร มีศิลป์ ผู้อำนวยการองค์การค้าฯ เพื่อพิจารณายกเลิกสัญญาจ้างและแต่งตั้งรักษาการแทน และในสัปดาห์หน้าจะยื่นหนังสือถึงกองปราบปรามเพื่อให้ดำเนินคดีอาญากับนายสมมาตร ซึ่งมีหลายคดีต่างกรรมต่างวาระ อาทิ การมีผลประโยชน์ทับซ้อนกับบริษัทเอกชนทำให้รัฐเสียหาย การเช่าแท่นพิมพ์ที่สูงกว่าราคากลาง การไม่ดำเนินการตามระเบียบจัดซื้อจัดจ้างของกรมบัญชีกลางนั้น เมื่อเร็วๆ นี้ ตนเชิญนายสมมาตร และนายบำเหน็จ ทิพย์อักษร รองเลขาธิการคณะกรรมการ สกสค. ในฐานะกำกับดูแลองค์การค้าฯ เข้ามาชี้แจงกรณีดังกล่าว ซึ่งประเด็นการส่งหนังสือเรียนล่าช้านั้น นายสมมาตรยืนยันว่า องค์การค้าฯ จัดส่งหนังสือได้ครบ 100% แล้ว สำหรับผู้ที่ส่งใบสั่งซื้อก่อนวันที่ 20 พฤษภาคม 2557 องค์การค้าฯ สามารถจัดส่งทันเปิดเทอม 1/2557 ตามที่กำหนด ส่วนโรงเรียนที่ส่งใบสั่งซื้อหลังจากนั้น ก็ได้มีการทยอยส่งให้ตามลำดับจนครบ
นอกจากนี้ ในประเด็นอื่นๆ ก็ได้มีการพูดคุย และนายสมมาตรได้นำเอกสารหลักฐานมายืนยัน แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ ต้องนำเรื่องทั้งหมดเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการ สกสค.ก่อน โดยได้เลื่อนการประชุมจากเดิมกำหนดไว้วันที่ 11 กันยายน 2557 มาเป็นประชุมให้แล้วเสร็จภายในสัปดาห์นี้ เป็นการเรียกประชุมวาระเร่งด่วนพิเศษ เพื่อพิจารณาข้อร้องเรียนของทาง ภตช. ตนขอให้ทางองค์การค้าฯ นำข้อมูลการจัดส่งหนังสือมายืนยันในที่ประชุมบอร์ด สกสค.อีกรอบ ว่าที่จัดส่งครบแล้วนั้นมีล่าช้าหรือไม่ และส่งครบถ้วน 100% ตามที่ระบุ ขณะเดียวกันให้รายงานผลประกอบการในภาพรวมว่าเป็นอย่างไร และให้มีการติดตามประเมินการจัดซื้อหนังสือเรียน รวมถึงเอกสารหลักฐานในข้อกล่าวหาอื่นๆ ด้วย
“ได้กำชับให้ทาง สกสค. ในฐานะกำกับ ดูแล ติดตาม ตรวจสอบเรื่องนี้อย่างใกล้ เพื่อไม่ให้เกิดข้อครหา ส่วนกรณีที่ทาง ภตช.ให้ดำเนินการทางวินัยและมีคำสั่งปลดนายสมมาตรนั้น ยังไม่แน่ใจว่าจะมีการนำประเด็นดังกล่าวเข้าสู่การพิจารณาในที่ประชุมคณะกรรมการ สกสค.หรือไม่ แต่ทั้งหมดขึ้นอยู่กับการพิจารณาของที่ประชุม ซึ่งคงต้องดูผลประโยชน์ของประเทศเป็นหลัก รวมถึงต้องทำให้การดำเนินการต่างๆ เกิดความเป็นธรรมมากที่สุด จากนั้นดิฉันจะนำข้อเท็จจริงทั้งหมดรายงานโดยตรงต่อฝ่ายสังคมจิตวิทยารับทราบต่อไป ส่วนต้องนำข้อมูลส่งให้ ภตช.ตรวจสอบด้วยหรือไม่นั้น ดิฉันคิดว่าถ้าส่งข้อมูลทั้งหมดให้ทางฝ่ายสังคมจิตวิทยารับทราบแล้วก็ไม่น่าจะมีปัญหา” นางสุทธศรีกล่าว.

ที่มา:หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ Monday, 25 August, 2014 - 00:00