เลขาก.ค.ศ.สั่งสกรีนเข้มคนสมัครผู้แทนครู

เลขาฯ ก.ค.ศ.สั่งเขตพื้นที่ฯ คุมเข้มคุณสมบัติผู้สมัคร อ.ก.ค.ศ. เน้นเป็นคนดี สุจริต ไม่มีประวัติด่างพร้อย หรือเคยขาดประชุมเกิน 3 ครั้ง ชี้หมดยุคเล่นพรรคเล่นพวกแล้ว เลือกตั้งต้องโปร่งใส
เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม ที่สโมสรทหารบกวิภาวดี สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) จัดประชุมชี้แจงการดำเนินการเลือกตั้งและสรรหาคณะอนุกรรมการใน อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษา และ อ.ก.ค.ศ.ที่ ก.ค.ศ.ตั้งในส่วนราชการ ซึ่งมีผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ผู้อำนวยการกลุ่มบริหารงานบุคคล ผู้แทนครูใน ก.ค.ศ. อนุกรรมการใน อ.ก.ค.ศ.วิสามัญกำกับ ติดตามและประเมินผลการบริหารงานบุคคล ประมาณ 800 คน เข้าร่วม
โดยนางศิริพร กิจเกื้อกูล เลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) กล่าวว่า ในการเลือกตั้งคณะอนุกรรมการผู้แทนข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาใน อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษา 3 ส่วน ได้แก่ ผู้แทน ก.ค.ศ. ผู้แทนคุรุสภา และผู้ทรงคุณวุฒิ ในวันที่ 6 กันยายนนี้ ขอให้เขตพื้นที่ฯ และส่วนราชการดำเนินการอย่างละเอียด ตั้งแต่การประกาศรับสมัครผู้มีคุณสมบัติที่จะเข้ารับการเลือกตั้ง การประกาศรายชื่อผู้สิทธิ์เลือกตั้ง การกำหนดเขตเลือกตั้ง ซึ่งตนหวังว่าการดำเนินการเลือกตั้งครั้งนี้จะมีความเรียบร้อยโปร่งใสและตรวจสอบได้
\"คุณสมบัติของผู้ที่เหมาะสมดำรงตำแหน่งทั้ง 3 ส่วนนั้น ขอเน้นเรื่องของความซื่อสัตย์สุจริต มีความสง่างาม ไม่ด่างพร้อย หรือเคยกระทำผิดจรรยาบรรณในวิชาชีพ โดยคุณสมบัติเหล่านี้ถือเป็นพื้นฐานที่เขตพื้นที่ฯ จะต้องช่วยกันดูแล เพราะจะรู้ดีว่าใครเป็นอย่างไร ซึ่งยุคนี้เป็นยุคของคนดี ทำงาน ไม่ใช่ยุคเล่นพรรคเล่นพวก รวมถึงจะพิจารณาในเรื่องคุณสมบัติความสามารถในการบริหารงาน โดยจะย้อนไปดูประวัติการทำงาน เช่น การเข้าประชุมไม่ควรขาดเกิน 3 ครั้ง และจะต้องมีเหตุผลชี้แจงว่าไม่เข้าประชุม เพราะสาเหตุใด และหากขาดมากเกินกว่านี้ ก็เท่ากับว่าคนคนนั้นไม่มีใจการบริหารงานบุคล ดังนั้นเขตพื้นที่ฯ ก็ไม่ควรคัดเลือกเข้ามา\" นางศิริพรกล่าว
เลขาธิการ ก.ค.ศ.กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีที่สมาพันธ์สมาคมครูแห่งประเทศไทย (ส.ค.ท.) มีข้อห่วงใย และเสนอให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เร่งรัดให้มีการคัดเลือกผู้ทรงคุณวุฒิใน ก.ค.ศ. จำนวน 8 คนก่อน เพื่อให้มี ก.ค.ศ.ชุดใหม่ ที่ครบองค์คณะมาดำเนินกานเลือกตั้งผู้แทนครูในสัดส่วนต่างๆ แทน ก.ค.ศ.รักษาการ เพื่อความเกิดความโปร่งในเป็นธรรมนั้น ตนยืนยันว่า ก.ค.ศ.ดำเนินการสรรหาตามระเบียบขั้นตอน และก็เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด ซึ่งไม่ว่าจะเป็น ก.ค.ศ.ที่มีอำนาจเต็ม หรือ ก.ค.ศ.รักษาการ ก็จะต้องดำเนินการตามนี้ เพราะเป็นหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้แล้วไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ ขณะเดียวกันกระบวนการสรรหาทั้งหมดจะเสร็จสิ้นในวันที่ 6 กันยายน และกว่าจะถึงวันนั้น เราก็จะได้ ก.ค.ศ.ชุดใหม่ ซึ่งสุดท้ายแล้ว การพิจารณารายชื่อที่ถูกคัดเลือกทั้งหมดก็จะต้องเสนอให้ ก.ค.ศ.ชุดใหม่อนุมัติอีกครั้ง.


ที่มา:หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ Thursday, 7 August, 2014 - 00:00



07/08/2557