คดีเทคโนโลยี

คดีเทคโนโลยี

จ่าบ้าน

ปรากฏการณ์ ข่าวหนึ่งที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ คือข่าวใช้เลขบัญชีที่ปรากฏในสลิปใบบันทึกเบิกถอนเงิน ซึ่งเจ้าของทิ้งไว้ที่ตู้เอทีเอ็ม โดยไม่ฉีกทำลาย ด้วยการนำตัวเลขไปเปิดทางเน็ตสืบหาเจ้าของบัญชี แล้วปลอมบัตรเปิดบัญชีใหม่

เสร็จแล้วจึงโอนเงินจากบัญชีเจ้าของเดิมมาเข้าบัญชีใหม่ ใช้บัตรเอทีเอ็มกดเงินออกมา เห็นว่าได้ไปเป็นจำนวนล้านบาททีเดียว

คดี นี้ตำรวจภูธรภาค 7 มีพลตำรวจโทหาญพล นิตย์วิบูลย์ เป็นผู้บัญชาการ พลตำรวจตรี สิทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น เป็นผู้บังคับการ จับกุมนายธนดล หรือตี๋ ขจรศักดิ์ชัย อายุ 41 ปี กับนายนที ศิระวรวิทย์ อายุ 32 ปี ผู้ต้องหารายนี้ได้ นับเป็นคดีทางเทคโนโลยีคดีแรก ผลของคดีเป็นอย่างไรต้องติดตามต่อไป

เรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์ในการเบิกเงินจากเครื่องเอทีเอ็มแล้วไม่ฉีกทำลายใบสลิปที่ออกมาจากเครื่อง

เป็นเหตุให้คนร้ายซึ่งมีความพยายามอย่างยิ่งที่จะหาวิธี \"ปล้น\" เงินจากเราไปด้วยวิธีการหลากหลาย

เรื่อง เกี่ยวกับระบบเงินผ่านเครื่องเอทีเอ็ม หรือการใช้บัตรเครดิตถอนเงินสดจากเครื่อง หรือนำไปใช้ซื้อสินค้า แล้วให้บัตรพนักงานไปรูดที่ตรงไหนก็ไม่รู้ ไม่ว่าจะเป็นในร้านค้า หรือในห้างสรรพสินค้า โปรดอย่าไว้ใจพนักงานว่าจะไม่ทำมิดีมิร้ายกับบัตรของเรา

หากเป็นไป ได้อาจต้องตามไปดูว่าพนักงานคนนั้นนำบัตรของเราไป \"รูด\" เพียงครั้งเดียวแล้วนำมาให้เราเซ็นชื่อ หรือว่ารูดสองครั้ง โดยตัวเลขแตกต่างกัน เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ให้กับตัวพนักงานเอง

วิธีการจะเป็นอย่างไร ปกติเราๆ ท่านๆ ไม่มีวันรู้ได้ ต้องให้ผู้เชี่ยวชาญด้านนี้อธิบาย

กรณีอาชญากรรมทางเทคโนโลยีที่เกิดขึ้นทุกวันนี้ ไม่ใช่เรื่องผิดปกติแต่อย่างไร

จำไว้ว่า ความรู้ใดที่เป็นคุณความรู้นั้นก็เป็นโทษได้ เพราะความรู้อาจเรียนทันกันหมด

ยิ่ง ทุกวันนี้ระบบอิเล็กทรอนิกส์แพร่หลายไปทั่ว มีเครื่องมือและความรู้ใหม่เข้ามาถึงบ้านเราอย่างรวดเร็ว ไม่เพียงเท่านั้น กรณีคนร้าย รายนี้คนหนึ่งเป็นนักเรียนนอก มีความรู้เรื่องการใช้ประโยชน์จากหมายเลขบัญชีได้อย่างชาญฉลาด หากเราไม่ระวังตัวด้วยสติสัมปชัญญะตลอดเวลา อาจตกเป็นเหยื่อของคนร้ายได้

ที่มา:วันที่ 02 กันยายน พ.ศ. 2556 เวลา 00:01 น. ข่าวสดออนไลน์