ชงดีเอสไอรับสกสค.เป็นคดีพิเศษ


วันนี้ (8 มิ.ย.) รศ.นพ.กำจร ตติยกวี ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยว่า สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) ได้ทำหนังสือถึงบริษัทบิลเลี่ยน อินโนโวเท็ดต์ กรุ๊ป จำกัด เพื่อทวงถามให้ชำระเงิน จำนวน 2,100 ล้านบาท บวกดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปีตามสัญญาแล้ว โดยบอร์ด สกสค. อยากได้เงินคืนเร็วที่สุด และจะมีการตรวจสอบด้วยว่ามีผู้ใดได้รับผลประโยชน์ทางอื่นจากการอนุมัติกู้ยืมในครั้งนี้หรือไม่ ต่อข้อถามว่า ศธ.จะยื่นขอให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ รับเรื่องนี้เป็นคดีพิเศษหรือไม่ ปลัด ศธ. กล่าวว่า ต้องนำเข้าหารือในที่ประชุมบอร์ด สกสค. ซึ่งเรื่องนี้มีข้อกฏหมายที่สามารถทำได้ คือ เชื่อว่ามีการยักย้ายถ่ายเทเงินของ สกสค. จึงต้องอาศัยอำนาจของดีเอสไอเข้าไปตรวจสอบ เพราะอำนาจของเจ้าหน้าที่ตำรวจอาจจะไม่สามารถเข้าไปตรวจสอบได้ ส่วนข้อเสนอของ นายพินิจศักดิ์ สุวรรณรังค์ ปฎิบัติหน้าที่ เลขาธิการ สกสค.ที่ให้ชะลอการปล่อยเงินกู้กองทุนฌาปนกิจสงเคราะห์ช่วยเพื่อนครูและบุคลากรทางการศึกษา(ช.พ.ค.) แก่ผู้กู้รายใหม่ เพื่อปรับหลักเกณฑ์การกู้ให้มีความเป็นธรรม โดยเฉพาะการทำประกันนั้น เรื่องนี้ตนได้กับธนาคารกรุงไทย และธนาคารออมสิน พบว่า โดยหลักการเป็นการนำเงินประกันภัยมาประกันเงินกู้ ซึ่งทำให้ผู้กู้ต้องเสียดอกเบี้ยสูงกว่าปกติ ขณะเดียวกันการทำประกันต้องมีค่าคอมมิชชั่น ดังนั้น ต้องไปดูว่าเงินส่วนนี้ตกไปอยู่ที่ใคร หรือ มีการนำไปลดให้แก่ครูแล้ว รศ.นพ.กำจร กล่าวด้วยว่า สำหรับปัญหาองค์การค้า ของ สกสค.นั้น ตนได้มอบให้นายสุเทพ ชิตยวงศ์ ปฏิบัติหน้าที่ ผอ.องค์การค้าฯ ไปปรับลดค่าใช้จ่าย และได้ตั้งคณะกรรมการประเมินผลการปฏิบัติงานของนายสมมาตร มีศิลป์ ผอ.องค์การค้าฯอีกครั้ง หากผลการประเมิน พบว่า การทำงานไม่มีประสิทธิภาพก็อาจยกเลิกสัญญาจ้างต่อไป.“

ที่มา:เดลินิวส์ วันจันทร์ที่ 8 มิถุนายน 2558 เวลา 14:00 น.“



09/06/2558