ตัวเล็ก...หัวใจใหญ่

ชีวิตที่ยืนหยัดด้วยความกตัญญูไม่ว่าจะพ่อแม่ ครูอาจารย์ หรือผู้มีพระคุณ สักวันจะส่งผลดีต่อชีวิตไม่มากก็น้อย ดั่ง 2 เด็กและเยาวชนที่ได้รับรางวัลยอดเด็กกตัญญู รับมอบจาก พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.)


เริ่มที่ ด.ช.ศักรินทร์ มะโนมัย หรือ ต่อ อายุ 8 ปี นักเรียนชั้น ป.2 โรงเรียนดอนแคนดอนหวายสามัคคี จ.ร้อยเอ็ด ที่อาศัยอยู่กับบิดาที่ป่วยเป็นโรคมะเร็งปอด ไทรอยด์เป็นพิษ และโรคทางเดินอาหารติดเชื้อ ทำให้บิดาไม่สามารถประกอบอาชีพได้ ต้องอาศัยปู่และย่าซึ่งบ้านติดกันเป็นคนช่วยดูแลค่าใช้จ่ายในครอบครัว \"รู้สึกดีใจที่ได้รับรางวัลนี้\" ด.ช.ศักรินทร์กล่าวด้วยท่าทีเขินอาย

แม้ตัวจะเล็ก แต่สิ่งที่ทำนั้นยิ่งใหญ่ ทุกวันศักรินทร์จะนำอาหารจากโครงการอาหารกลางวันของโรงเรียน ปั่นจักรยานไปให้พ่อแล้วกลับมาเรียนต่อ เป็นระยะทางไปกลับ 4 กิโลเมตร

และหลังเลิกเรียนจะนำอาหารกลางวันที่เหลือกลับบ้านไปให้พ่อทุกวัน ส่วนในวันเสาร์และอาทิตย์จะขอแบ่งอาหารจากญาติข้างบ้านและครูในโรงเรียน ศักรินทร์ช่วยเหลือตัวเองมาตลอด ไม่ได้รอให้ใครมาช่วยเหลือ บางครั้งจะลอคอในคลองเพื่อเก็บผักมาเป็นอาหารด้วย

ด้าน นางสังวาลย์ ช่วงบัว ครูประจำชั้นของ ด.ช.ศักรินทร์กล่าวว่า ศักรินทร์มีนิสัยส่วนตัวเป็นเด็กดี มีน้ำใจ ช่วยเหลือครูและเพื่อนนักเรียนตลอด พวกครูจะเห็นกันตั้งแต่เขาอยู่ชั้นอนุบาล อาทิ มาโรงเรียนแต่เช้าเพื่อช่วยทำความสะอาดโรงเรียน รดน้ำต้นไม้ เก็บขยะ เปิดห้องเรียน นำสัมภาระครูและเพื่อนนักเรียนไปเก็บให้ โดยศักรินทร์ให้เหตุผลว่าชอบช่วยเหลือ ทั้งนี้ ก็ดีใจและภาคภูมิใจกับศักรินทร์ รางวัลที่ได้นี้เป็นผลบุญของเขาตั้งแต่เล็กๆ

ส่วนอนาคตของศักรินทร์นั้น นางสังวาลย์กล่าวว่า ศักรินทร์ถือเป็นเด็กที่มีพัฒนาการล่าช้าในทางวิชาการ แต่เก่งในทางวิชาชีพและงานประดิษฐ์ ก็ตั้งใจจะส่งเสริมการเรียนสายอาชีพอย่างที่เขาถนัด เป็นช่างเจียระไนเพชรเหมือนพ่อของเขา

ขณะที่ยอดเด็กกตัญญูอีกคน น.ส.สุนิดา อาลีน๊ะ หรือดา อายุ 19 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 1 สาขาบัญชี คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยหาดใหญ่ ที่พ่อเป็นอัมพาตร่างกายช่วงล่าง เพราะถูกลอบยิงเมื่อครั้งเป็นทหารพราน โดยสุนิดาเลี้ยงดูพ่อที่บ้านเช่าในอำเภอหาดใหญ่ ขณะเดียวกันเธอต้องเรียนหนังสือ แต่เพราะไม่อยากให้พ่อต้องอยู่ตามลำพัง เธอจึงพาพ่อไปที่มหาวิทยาลัยด้วยโดยรถจักรยานยนต์พ่วงข้าง ส่วนแม่เสียชีวิตไปแล้ว

กระนั้น โชคยังดี เพราะเธอยังมีพี่ชาย 2 คนทำงานและส่งเสียมาจากประเทศมาเลเซียเดือนละ 2-3 พันบาท

\"พ่อแม่เลี้ยงเรามาตั้งแต่เด็ก ฉะนั้นในยามที่ท่านแก่ชราหรือประสบปัญหาอะไรก็อย่าทิ้งท่าน ดูแลท่านให้ดีอย่างที่ดาทำ ก็ฝากลูกๆ ทุกคน ส่วนรางวัลนี้ไม่เคยคิดว่าจะได้มาก่อน แต่ก็ดีใจมากที่ได้มา\"

สำหรับอนาคตนั้นสุนิดาตั้งเป้าหมายอยากเป็นเสมียน และจะดูแลพ่ออย่างนี้เรื่อยไป และพยายามจะไม่ทิ้งพ่อไว้ตามลำพังที่บ้าน

\"ตอนนี้ชีวิตก็ดีขึ้น มหาวิทยาลัยรับดูแลค่าเล่าเรียนให้ ส่วนตนเองก็รู้จักแบ่งเวลาชีวิตให้ดี เริ่มจากดูแลพ่อให้เสร็จก่อน แล้วค่อยไปอ่านหนังสือ ที่ผ่านมาไม่ท้อและมีกำลังใจมาตลอด พ่อจะคอยให้กำลังใจเสมอและอยากให้เรียนให้จบ ซึ่งผลการเรียนขณะนี้ก็อยู่ในเกณฑ์ดี\" สุนิดากล่าว

ทำดีต้องเชิดชู กตัญญูต้องชื่นชม


ที่มา:มติชนออนไลน์ วันที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2557 เวลา 10:10:09 น.



28/12/2557